ธุรกิจการตลาด

Tesla รายได้ไตรมาส 4 พลาดเป้า ผลจากการหั่นราคาสู้คู่แข่ง ทำหุ้นลดเกือบ 6%

25 ม.ค. 67
Tesla รายได้ไตรมาส 4 พลาดเป้า ผลจากการหั่นราคาสู้คู่แข่ง ทำหุ้นลดเกือบ 6%

Tesla ทำรายได้ไตรมาสที่ 4 พลาดเป้านักวิเคราะห์แม้ยอดขายรถเพิ่ม หลังจากหั่นราคารถหลายครั้งเพื่อสู้กับคู่แข่ง และบริษัทออกมาเผยวันนี้ว่าการเติบโตในปี 2024 อาจน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมา กดดันให้ราคาหุ้นตกลงเกือบ 6% หลังปิดการซื้อขาย

ในวันนี้ (25 ม.ค.) Tesla ได้เปิดเผยผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2023 พบทำรายได้ไปทั้งหมด 2.517 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ยังพลาดเป้าของนักวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ที่ 2.56 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กำไรต่อหุ้น (earnings per share) อยู่ที่เพียง 71 เซนต์ จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 74 เซนต์

ขณะที่รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าจาก 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปเป็น 7.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ แต่ส่วนมากเป็นเพราะได้รับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรัฐบาล ซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ที่จะได้เพียงครั้งเดียว

เมื่อรวมผลประกอบการไตรมาสที่ 4 เข้าไปแล้ว ทั้งปี 2023 Tesla จะทำรายได้ไปได้ทั้งหมด 8.242 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2022 

ทั้งนี้ นอกจากรายได้จะออกมาไม่มากเท่าที่คาดแล้ว การเติบโตของยอดขายยังไม่เป็นไปตามเป้า เพราะในปี 2023 ที่ผ่านมา Tesla ส่งมอบรถได้มากขึ้นเพียง 38% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งน้อยกว่าเป้าหมายของ Tesla ที่ตั้งเป้าไว้ว่าบริษัทจะเพิ่มยอดขายรถให้เฉลี่ยถึง 50% ทุกปี

เมื่อดูจากตัวเลขที่ออกมา ผลประกอบการของ Tesla ในไตรมาสที่ 4 จึงเรียกได้ว่าค่อนข้างน่าผิดหวัง ทำให้นักลงทุนที่เริ่มกังขาในความสามารถในการทำกำไรของ Tesla อยู่แล้วจากการแข่งขันในตลาดที่สูงขึ้น เชื่อมั่นในตัวหุ้น Tesla น้อยลงอีก กดดันให้ราคาหุ้นลดลงไปเกือบ 6% จากราคาปิดตลาด 207.83 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไปเหลือ 195.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นเมื่อ 20.00 น. วันที่ 24 ม.ค. เวลาสหรัฐ

รายได้ลดลงเพราะสงครามราคา คาดรถรุ่นใหม่ราคาถูกกว่าเดิม

Tesla อธิบายกับนักลงทุนในการประกาศผลประกอบการว่า เหตุผลที่รายได้ของ Tesla ลดลงเกิดจากการที่ Tesla ต้องลดราคารถยนต์เพื่อสู้กับคู่แข่ง โดยเฉพาะผู้ผลิตรถจากจีน และการที่ Tesla ต้องลงทุนกับการวิจัยและพัฒนารถไลน์ใหม่ รวมไปถึง Cybertruck รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่แกะกล่องของบริษัท

ในปัจจุบัน Tesla ยังไม่ได้เปิดเผยแบบและราคาของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ แต่มีผู้คาดการณ์ว่ารถรุ่นใหม่นี้จะมีราคาถูกกว่ารถรุ่นปัจจุบัน เพราะในปัจจุบันอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ามีผู้เล่นมาก และมีการแข่งขันสูง ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถตั้งราคาสูงมากได้

แนวโน้มด้านราคานี้ทำให้นักลงทุนมองว่ารายได้ของ Tesla มีศักยภาพในการเติบโตได้ไม่ดีนัก เพราะแม้ Tesla จะสามารถจำหน่ายรถได้มากขึ้น รายได้ของ Tesla ก็ไม่น่าจะโตได้เฉลี่ยปีละ 50% ตามเป้าหมาย ทำให้ราคาหุ้นของ Tesla มีแนวโน้มที่ลดลงตามไปด้วย เพราะการคาดการณ์นี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หุ้นของ Tesla มีราคาแพงจน Tesla กลายเป็นบริษัทรถที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก แม้ไม่ได้เป็นบริษัทรถที่ผลิตรถได้มากที่สุด หรือมีรายได้และกำไรสูงสุด

ในวันนี้ Tesla ได้เปิดเผยแล้วว่าบริษัทจะสามารถเริ่มผลิตรถรุ่นใหม่ได้ภายในครึ่งปีหลังของปี 2025 ดังนั้น นักลงทุนและผู้ที่กำลังจะลงทุนในหุ้นของ Tesla ก็คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่า Tesla จะสามารถออกสินค้าหรือนวัตกรรมอะไรมาดึงผู้บริโภคและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของตัวเองได้บ้าง เพราะในปัจจุบันมีคู่แข่งมากมาย โดยเฉพาะ BYD ที่พร้อมจะเข้ามาโค่นบัลลังก์ของ Tesla ในฐานะเจ้าตลาดรถ BEV ทั้งด้วยคุณภาพสินค้าและช่วงราคาที่น่าดึงดูดใจมากกว่า






 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT