ธุรกิจการตลาด

Exxon เริ่มหนีธุรกิจน้ำมัน เปิดเหมืองลิเธียมผลิตแบตเตอรี่ EV ตั้งเป้าป้อนตลาดได้ปี 2027

15 พ.ย. 66
Exxon เริ่มหนีธุรกิจน้ำมัน เปิดเหมืองลิเธียมผลิตแบตเตอรี่ EV ตั้งเป้าป้อนตลาดได้ปี 2027

Exxon บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของโลก ลงทุนเปิดเหมืองผลิตแร่ลิเธียม วัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าในเมืองรัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐฯ มุ่งหวังเป็นผู้ผลิตแร่ลิเธียมชั้นนำของโลก โดยคาดว่าจะเริ่มผลิตลิเธียมป้อนผู้ผลิตแบตเตอรี่ได้ภายในปี 2027 และผลิตลิเธียมสำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ถึง 1 ล้านคันภายในปี 2030

จากการรายงานของ CNBC ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บริษัท Exxon ได้เข้าซื้อที่ดินทางตอนใต้ของรัฐอาร์คันซอที่ชื่อว่า Smackover Formation ความกว้างถึง 120,000 เอเคอร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบทรัพยากรแร่ลิเธียมเป็นจำนวนมาก เพื่อผลิตแร่ส่งให้แก่บริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า

โดยจากข้อมูลของ Exxon ทางบริษัทจะใช้เทคนิคเดียวกับที่ใช้การขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในการขุดลงไปให้ถึงแหล่งน้ำเค็มที่อยู่ลึกลงไปจากหน้าดิน 10,000 ฟุต ก่อนที่จะสูบน้ำดังกล่าวขึ้นมาเพื่อดำเนินการแยกแร่ และนำแร่นั้นไปผ่านกระบวนการเพื่อเปลี่ยนให้เป็นลิเธียมที่พร้อมสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ไฟฟ้าต่อไป

32jr8w7-highres_1

ในปัจจุบัน Exxon กำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างสถานที่และอุปกรณ์ให้พร้อมกับการสกัดแร่ลิเธียมออกมา และคาดว่าจะมีความพร้อมให้การผลิตลิเธียมป้อนตลาดภายในปี 2027 และผลิตแร่สำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าถึง 1 ล้านคันในปี 2030

การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นอีกความพยายามของธุรกิจเชื้อเพลิงฟอสซิลและน้ำมันที่พยายามที่จะปรับเปลี่ยนหรือขยายการทำธุรกิจไปสู่พลังงานรูปแบบใหม่ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านพลังงาน เพราะก่อนหน้านี้บริษัทอย่าง Shell และ BP ก็เริ่มได้เข้าไปลงทุนในพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์กันบ้างแล้ว

นอกจากโครงการเหมืองแร่ลิเธียม Exxon ยังได้ประกาศลงทุนถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงปี 2027 เพื่อช่วยลดการปล่อยคาร์บอน โดยเน้นไปที่การสร้างหรือสนับสนุนให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการดักจับคาร์บอน พลังงานไฮโดรเจน และ เชื้อเพลิงชีวภาพ

 

ตั้งเป้ายกระดับการผลิตลิเธียมในประเทศ รับกระแสอีวีบูม

Dan Ammann ประธานธุรกิจคาร์บอนต่ำของ Exxon กล่าวว่า การลงทุนสร้างเหมืองผลิตลิเธียมของ Exxon ในรัฐอาร์คันซอในครั้งนี้เป็นการลงทุนระยะยาวที่จะช่วยยกระดับศักยภาพในการผลิตลิเธียมสหรัฐฯ ซึ่งยังถือว่าล่าช้ากว่าคู่แข่ง แม้จะมีทรัพยากรที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ในประเทศ ทำให้ในปัจจุบันสหรัฐฯ ต้องนำเข้าแร่ลิเธียมจากอาร์เจนตินาและชิลีเป็นส่วนมาก

ในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีความต้องการใช้แร่ลิเธียมสูงขึ้นเพราะประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแทนรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์สันดาปภายในกันมากขึ้น 

โดยจากข้อมูล Cox Automotive ในไตรมาสที่ 3 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และจากรายงานของ Li-Bridge กลุ่มอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ ความต้องการใช้แบตเตอรี่ลิเธียมในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นหกเท่าภายในปี 2030

ดังนั้น การลงทุนสร้างเหมืองผลิตลิเธียมภายในประเทศในครั้งนี้จึงถือเป็นความเคลื่อนไหวสำคัญของ Exxon ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตลิเธียมชั้นนำในตลาดลิเธียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

 

ที่มา: CNBC

advertisement

SPOTLIGHT