Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เอทิฮัดพาบินตรงอาบูดาบี-เชียงใหม่ครั้งแรก เร่งขยายปลายทาง 31 แห่ง
โดย : กองบรรณาธิการ SPOTLIGHT

เอทิฮัดพาบินตรงอาบูดาบี-เชียงใหม่ครั้งแรก เร่งขยายปลายทาง 31 แห่ง

6 พ.ย. 68
00:38 น.
แชร์

4 พฤศจิกายน 2568 เป็นครั้งแรกที่มีเที่ยวบินพาณิชย์บินตรงจากตะวันออกกลางสู่เมืองเชียงใหม่ และเที่ยวบินใหม่แกะกล่องที่ว่านี้คือเที่ยวบิน EY426 บินตรงจากอาบูดาบี ปลายทางเชียงใหม่ และ เที่ยวบิน EY427 บินตรงจากเชียงใหม่ปลายทางอาบูดาบี  โดยสายการบิน Etihad (เอทิฮัด) ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE และมีฐานการบินหลักอยู่ที่อาบูดาบี  

นอกจากจุดหมายปลายทางบินตรงเป็นเชียงใหม่ของไทยแล้ว เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัด ยังเปิดตัวเที่ยวบินตรงอาบูดาบี ปลายทางจังหวัดกระบี่ ด้วยเที่ยวบิน EY424 และขากลับเที่ยวบิน EY425 อีกด้วย ทำให้ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากอาบูดาบีมาจุดหมายปลายทางในไทยโดยสายการบินเอทิฮัด ทั้งหมด 4 จังหวัดคือ กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, กระบี่, และ เชียงใหม่ 

สำหรับเที่ยวบินตรงอาบูดาบี-เชียงใหม่ EY426 และเชียงใหม่-อาบูดาบี EY427 มีรอบบิน 4 ครั้งต่อสัปดาห์ คือ วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ และอาทิตย์ ส่วนเที่ยวบินปลายทางกระบี่ EY424 และ EY425 มีเที่ยวบินตรงทุกวัน

การเปิดจุดหมายใหม่ที่กระบี่และเชียงใหม่ นอกจากจะสะท้อนการเติบโตของสายการบินเอทิฮัด ยังสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย

เอทิฮัดกับเป้าหมายการเติบโตในอุตสาหกรรมการบิน 

การเพิ่มเที่ยวบินครั้งนี้เป็นภาพสะท้อนการเติบโตของสายการบินเอทิฮัด ที่แฟรงก์ เมเยอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายดิจิทัลเปิดเผยว่า เป้าหมายของเอทิฮัดคือการเปิดเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางใหม่กว่า 31 แห่งทั่วโลก โดยเปิดตัวใหม่ 18 แห่งในปีนี้ และรอเปิดตัวอีก 13 แห่งในปีหน้า

“เอทิฮัดเติบโตเร็วมาก ๆ และเราเติบโตเร็วเป็นพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ […] ในปีนี้เราได้เห็นการเติบโตครั้งใหญ่อีกครั้งของเอทิฮัด และปีหน้าเราก็ยังจะเติบโตต่อไป เป้าคือ 15%” เมเยอร์กล่าว

“เรายังจะโตอย่างต่อเนื่องต่อไปจนถึงปี 2030 ที่เราคาดหวังให้ขนาดของสายการบินใหญ่ขึ้น มีเครื่องบินประจำการมากกว่า 200 ลำ” เมเยอร์กล่าวถึงเป้าหมายที่ท้าทาย ซึ่งขณะนี้เอทิฮัด มีฝูงบินประจำการอยู่ 115 ลำ

ในรายงานของบริษัทเมื่อเดือนกันยายน 2568 พบว่า ครึ่งปีแรกของปี 2568 นั้น เอทิฮัด มีผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งในแง่กำไรและจำนวนผู้โดยสาร โดยบริษัทมีรายได้รวม และรายได้จากผู้โดยสารสูงขึ้น 16% และรายได้จากการขนส่งปรับตัวเพิ่ม 9% 

ขณะที่จำนวนผู้โดยสารในช่วงครึ่งปีแรกสูงถึง 10.2 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 17% ด้านอัตราการบรรทุกผู้โดยสารก็มากขึ้น 2% จากปีก่อนหน้า เป็น 87% ในปีนี้ ส่งผลให้เอทิฮัดมีกำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 1.1 พันล้านดีแรห์ม (ราว 9.9 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

การเปิดจุดหมายปลายทางใหม่ของเอทิฮัดนั้น ไม่ได้อาศัยแค่การเติบโตด้านธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่การตัดสินใจเปิดเส้นทางใหม่ต้องใช้ทั้งวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และความกล้าเสี่ยง หัวหน้าฝ่ายการวางแผนการขายและบัญชีลูกค้าระดับโลก แคลร์ เคอร์ติส สะท้อนความหวังว่า การเปิดเส้นทางใหม่ ๆ จะช่วยเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวในสองประเทศ รวมถึงอาจเปิดโอกาสใหม่สำหรับความร่วมมือทางธุรกิจ

ปัจจัยที่ใช้พิจารณาเปิดเส้นทางบินใหม่ของ เอทิฮัด 

นอกจากประเทศไทยแล้ว ที่ผ่านมาเอทิฮัดเปิดตัวเส้นทางใหม่อีก 3 แห่งคือ ตูนิส, ฮานอย, และฮ่องกง ส่วนทำไมจุดหมายปลายทางใหม่ต่องเป็นสถานที่เหล่านี้ เมเยอร์กล่าวถึงการพิจารณาจาก 3 ปัจจัยข้อแรกคือ สายการบินมีข้อมูลเกี่ยวกับการสัญจรทางอากาศอยู่แล้ว ทำให้เข้าใจว่ามีความหนาแน่นการสัญจรไปแต่ละจุดหมายปลายทางมากน้อยแค่ไหน และทำให้เอทิฮัดเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณาคือระยะทางระหว่างจุดหมายปลายทางดังกล่าวและกรุงอาบูดาบี และต้องพิจารณาด้วยว่าสนามบินปลายทางยังมีพื้นที่ว่างสำหรับเที่ยวบินใหม่ของเขาหรือไม่

“แต่สุดท้ายแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นเราพึ่งพิงข้อมูลได้เพียงแค่ 70 หรือ 80% เท่านั้นครับ เพราะหลังจากนั้นคือต้องทดลองดู ต้องเปิดจุดหมายใหม่ ต้องโปรโมท ต้องสร้างเครือข่ายและดูว่างานนี้จะประสบความสำเร็จไหม” เมเยอร์กล่าว

เครื่องบินใหม่ ลำตัวแคบ แต่เน้นความหรูหราพรีเมี่ยม

สำหรับเครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบิน EY426 และ EY427 คือเครื่องบินรุ่น A321LR เครื่องบินรุ่นใหม่ที่เอทิฮัดเพิ่งได้รับมอบ ส่งตรงจากโรงงานผลิตตามสัญญาเช่าของ Aercap จำนวน 20 ลำ นอกจากเชียงใหม่ เครื่องบินรุ่นนี้ยังถูกส่งไปประจำการเที่ยวบินใหม่ในหลายภูมิภาคทั้วโลก อาทิ ยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง

A321LR แม้จะเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ แต่เคอร์ติสให้ความมั่นใจว่า ความหรูหราและความพรีเมียมอันเป็นเอกลักษณ์ของสายการบินไม่ใช่แค่จะไม่หายไป แต่ยังถูกขับเน้นมากยิ่งขึ้นด้วย

เมเยอร์ผู้นั่งเที่ยวบิน EY426 เที่ยวแรกแบ่งปันประสบการณ์

“ทุกองค์ประกอบบนเครื่อง ตั้งแต่ชั้นพรีเมียมถึงชั้นประหยัดล้วนดีขึ้นหมด ดีกว่าเครื่องบินลำตัวกว้างที่เรามีหลายรุ่นเสียอีก ที่นั่งชั้นพรีเมียมบนเครื่องบิน A321LR ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวอยู่เลย"

แคลร์ เคอร์ติส หัวหน้าฝ่ายกาวางแผนการขายแลบัญชีลูกค้า และเมเยอร์ยืนยันว่า แม้เครื่องบินจะเป็นแบบลำตัวแคบ ซึ่งหลายคนมักเข้าใจว่าหมายถึงการต้องนั่งแออัดกับผู้โดยสารคนอื่น ๆ แต่เครื่องบิน A321LR รุ่นนี้ถูกออกแบบมาแบบพิเศษ ทำให้การโดยสารไม่รู้สึกอึดอัด แถมยังเพิ่มองค์ประกอบต่าง ๆ ที่ทำให้รู้สึกถึงความหรูหราอีกด้วย อย่างเช่นจอสัมผัสความละเอียด 4K, บริการ Wi-Fi ความเร็วสูงบนเครื่อง, ช่องเก็บสัมภาระใหญ่พิเศษ, และระบบไฟ Mood Lighting เป็นต้น

นอกจากความหรูหรา สำหรับผู้โดยสารทั้ง 160 ที่นั่งแล้ว ประสิทธิภาพในการบินก็เป็นอีกข้อที่เอทิฮัดให้การรับรองกับเครื่องบินรุ่นนี้ 

A321LR ใช้เครื่องยนต์รุ่น CFM Leap-1A32 มีแรงขับ 32,100 ปอนด์ และมีเทคโนโลยีนำสมัย มีอัตราส่วน บายพาส สูงที่สุดในบรรดาเครื่องบินลำตัวแคบขนาดใหญ่ (12:1) มีปลายปีกแบบ Sharklets  ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้สามารถปฏิบัติการบินบนรันเวย์ที่มีความยาวเพียง 1,300 เมตรได้ และยังรองรับการปฏิบัติการได้ทั้งเส้นทางระยะไกลและระยะสั้น ปฏิบัติการได้สูงสุด 4,000 ไมล์ทะเล 

จัดโปรโมชั่น ดึงดูดท่องเที่ยว - บินเอทิฮัด พักฟรีอาบูดาบี 2 คืน

อีกหนึ่งข้อเสนอที่สายการบินเอติฮัดนำมาเสิร์ฟลูกค้าคือ โปรแกรม Stopover ที่หากลูกค้าสายการบิน มาเปลี่ยนเครื่องที่กรุงอาบูดาบี สามารถพักที่อาบูดาบีได้ฟรี 2 คืน เพียงแค่จองเที่ยวบินผ่านเว็บไซต์ของสายการบินเท่านั้น

เช่นเดียวกันกับการเพิ่มเที่ยวบินตรงอาบูดาบี-จุดหมายใหม่ต่าง ๆ ข้อเสนอดังกล่าวเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของเมืองหลวงแห่งนี้ คุณเคอร์ติสหวังว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในอาบูดาบีจะมากขึ้นถึง 3 เท่า

“ฉันว่าอาบูดาบีเป็นเมืองที่เหมาะกับคนทุกกลุ่มเลย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อน ครอบครัว แก๊งเพื่อนสาว หรือเพื่อนหนุ่ม เรามีความบันเทิงมากมาย มีดิสนีย์แลนด์แห่งที่ 7 ที่กำลังจะสร้างในเกาะยาส เรามีพิพิธภัณฑ์สวย ๆ  มีมัสยิดหลวง Sheikh Zayed งามตระการตา มีพิพิธภัณฑ์ Guggenheim พี่กำลังก่อสร้าง” เคอร์ติสกล่าว

เธอเน้นย้ำถึงการเติบโตด้านวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของอาบูดาบี และนอกเหนือจากนี้ยังมีแสงสีช่วงเวลากลางคืน งานจัดแสดงดนตรีหลากหลาย ธรรมชาติอย่างชายหาด จึงทำให้เมืองหลวงแห่งนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่ครบครันสำหรับนักท่องเที่ยวทุกแบบ

อีกอย่างที่กำลังเติบโตในอคือการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมดิจิทัล เพิ่งมีการประกาศสร้าง data center ไม่นานมานี้ จึงคาดหวังกันว่า อาบูดาบีอาจเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของอุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์

อย่างไรก็ตามการเข้ามาของศูนย์ข้อมูล data center ย่อมมาพร้อมกับความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจาก data center ใช้ทรัพยากรน้ำและพลังงานจำนวนมาก การดำเนินการด้านความยั่งยืนย่อมต้องตามมาด้วย

ไม่ต่างกันกับการเปิดเที่ยวบินใหม่ ที่หมายความว่าระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนก็จะต้องมากขึ้น ความยั่งยืนจึงเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สายการบินเอทิฮัดต้องพิจารณาให้รอบคอบในแผนการขยายเครือข่ายจุดหมายครั้งนี้

แนวทางความยั่งยืนแบบเอทิฮัด

ข้อมูลจาก Carbon Independent เปิดเผยว่าเที่ยวบินโดยสารหนึ่งเที่ยวบินอาจปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เฉลี่ย 250 กิโลกรัม ต่อผู้โดยสาร 1 คน ต่อ 1 ชั่วโมง ดังนั้นเที่ยวบินตรงระยะเวลาประมาณ 6 ชั่วโมงจากอาบูดาบีถึงเชียงใหม่จึงจะเพิ่มการปล่อย CO2 ต่ออาทิตย์ไม่น้อยเลย

อย่างไรก็ตามเครื่องบินหนึ่งลำปล่อย CO2 มากแค่ไหน อย่างมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาร่วม อาทิ ความสามารถในการบรรจุผู้โดยสาร ขนาดและชนิดของเครื่องยนต์ ขนาดและน้ำหนักเครื่อง รวมถึงความใหม่ของตัวเครื่อง สำหรับเอทิฮัดนั้น เมเยอร์กล่าวว่า ข้อหลังคือกุญแจสำคัญด้านการบินแบบยั่งยืนของบริษัท

“แน่นอนว่าสายการบินอย่างเราต้องผลิต CO2 แต่เราเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีเครื่องบินอายุงานน้อยที่สุดในโลก ผมเข้าใจว่ากองบินของเรามีอายุเฉลี่ยราว 8.8 ถึง 8.5 ปีเท่านั้น และเป็นเครื่องบินรุ่นใหม่ที่มีความสามารถในการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า” เมเยอร์กล่าว

เคอร์ติสและเมเยอร์ชี้ว่า การดำเนินการด้านความยั่งยืนของเที่ยวบินสองทางใหม่ในไทย ใช้แนวทางความยั่งยืนเดียวกับแนวทางหลักของบริษัท ซึ่งแบ่งเป็นสี่เสาหลักได้แก่: การลดคาร์บอน การกำจัดของเสีย ความหลากหลายทางชีวภาพและสัตว์ป่า และนวัตกรรม

เอทิฮัดมีเป้าหมายความยั่งยืนร่วมกับรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ต้องการไปถึง NET Zero ภายในปี 2593 ด้วยการขยายเครือข่ายการการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) แต่การปรับตัวด้านความยั่งยืนจะสามารถตามทันการขยายเครือข่ายของสายการบินไหม เป็นการเดินทางที่เราต้องจับตามองกันต่อไป

นอกจากนี้เอทิฮัด ยังทำงานส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยการเปิดสายการบินใหม่ จึงคาดหวังว่าจะนำพานักท่องเที่ยวและการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมาสู่ทั้งอาบูดาบีและเชียงใหม่ (รวมถึงกระบี่และจุดหมายปลายทางอื่น ๆ) เพิ่มการจ้างงาน และความร่วมมือระหว่างกันอีกด้วย






แชร์
เอทิฮัดพาบินตรงอาบูดาบี-เชียงใหม่ครั้งแรก เร่งขยายปลายทาง 31 แห่ง