เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 นายจตุพร บุรษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร (JATUJAK WEEKEND MARKET) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นำโดยนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ประธานกรรมการบริหารสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร นายมีชัย ภัทรเปรมเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร และนางสาวปาณิศา ทองมา ผู้อำนวยการตลาดนัดจตุจักร เพื่อให้กำลังใจผู้ค้า และหารือแนวทางฟื้นฟูตลาดนัดชื่อดังระดับโลกแห่งนี้ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
นายจตุพร กล่าวว่า ปัจจุบันบรรยากาศการค้าขายในตลาดอาจซบเซาเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง แต่ตลาดนัดจตุจักรยังคงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ความสนใจ สิ่งที่ต้องทำคือยกระดับตลาดให้มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านสินค้า บริการ และบรรยากาศ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา และกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ค้า
"ผมอยากเชิญชวนพี่น้องคนไทยมาช่วยกันสนับสนุน เพราะที่นี่มีความงดงาม และสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในเรื่อง ‘ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย’ ที่ต้องการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้มีพื้นที่ในการค้าขายและสร้างรายได้ร่วมกัน" นายจตุพร กล่าว
ซึ่งตนได้หารือกับผู้อำนวยการสำนักงานเขตดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานในตลาด เช่น ภูมิทัศน์ ห้องน้ำ ความปลอดภัย และการจัดระเบียบพื้นที่ เพื่อสร้างความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ จะจัดทำแผนที่บอกโซนสินค้าให้ชัดเจน พร้อมพิจารณาจัดอาสาสมัครสื่อสารได้หลายภาษาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว
ในด้านการเดินทางและที่จอดรถ โดยเฉพาะรถบัสและรถขนาดใหญ่ นายจตุพรยอมรับว่ายังมีข้อจำกัดที่ต้องแก้ไขอย่างรอบด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวและผู้ค้า
กระทรวงพาณิชย์ยังเตรียมผลักดันการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า และศึกษาความเป็นไปได้ในการนำสินค้าไปเจาะตลาดต่างประเทศ เพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการไทยตลาดนัดจตุจักรเป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้ที่นี่กลับมาคึกคัก เป็นศูนย์กลางการค้าและท่องเที่ยวระดับโลก
ทั้งนี้จากการตรวจเยี่ยมพบว่าสินค้าในตลาดมีความหลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล และอาหารมีคุณภาพดี อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ตลาดนัดจตุจักรเข้มงวดดูแลกรณีราคาสินค้าไม่ตรงป้าย หรือคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ขณะเดียวกันกรมการค้าภายในได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจลงพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบคุณภาพสินค้า ราคาที่เป็นธรรม และความถูกต้องของเครื่องชั่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว และสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันต้องไม่มีการขาดแคลน และต้องจำหน่ายในราคาที่ประชาชนเข้าถึงได้ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความเป็นธรรมในตลาด
ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายจตุพรกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจานำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ ว่ายังอยู่ในระหว่างพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกรในประเทศ โดยยืนยันว่าอัตราภาษีนำเข้าร้อยละ 19 สะท้อนการแข่งขันที่เหมาะสม ส่วนการนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเผาเพื่อเตรียมปลูกพืช ต้องหารือเพิ่มเติม เนื่องจากเกี่ยวข้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและ PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
สำหรับการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบต่อการส่งออกเฉลี่ย 400–500 ล้านบาทต่อวัน กระทรวงพาณิชย์ได้เร่งหาทางออก ทั้งการปรับเส้นทางกระจายสินค้า การหาตลาดใหม่ และการช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะคำนึงถึงอธิปไตยของประเทศควบคู่ไปกับการคุ้มครองผลประโยชน์ผู้ประกอบการ
และเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับมาตรการทางการค้าสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์เตรียมเปิด “ศูนย์ One Stop Service” ที่ศูนย์ส่งออกสินค้า ถนนรัชดาภิเษก ภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้คำปรึกษาและข้อมูลแก่ผู้ประกอบการ ลดผลกระทบและสร้างความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจต่อไป
Advertisement