
การแข่งขันกีฬายกน้ำหนัก มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่โรงยิมเนเซียม โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี หลังชิงชัยวันแรกทีมไทยทำผลงานยอดเยี่ยม คว้าไป 2 เหรียญทอง และ 1 เหรียญเงิน ล่าสุด วันที่ 14 ธันวาคม 2568 ชิงชัยวันที่สอง ผลมีดังนี้
รุ่น 65 กิโลกรัม ชาย
ทีมไทยส่ง นายปัฐษพงษ์ ทองสุก ลงแข่งขัน ท่าสแนตช์ ครั้งแรกเรียกเหล็ก 130 กิโลกรัม ยกไม่ผ่าน ก่อนออกมาแก้ตัวสำเร็จที่น้ำเดิมในการยกครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 ยกผ่านที่ 134 กิโลกรัม จบท่าสแนตช์หนุ่มไทย รั้งอันดับ 3 ก่อนที่ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก จะงัดฟอร์มเก่ง ยกผ่านรวดทั้งหมด 168, 171, 173 กิโลกรัม ตามลำดับ พร้อมขยับน้ำหนักรวมไปอยู่ที่ 307 กิโลกรัม แซงคว้าเหรียญทอง ไปครอง นับเป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมจอมพลังไทย
ส่วนเหรียญเงิน เป็นของ มูฮัมหมัด อาซ์นิล บิดิน จากมาเลเซีย 306 กิโลกรัม (ท่าสแนตช์ 133 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 173 กิโลกรัม) และ เหรียญทองแดง เอโค ยูลิ อิราวาน 304 กิโลกรัม (ท่าสแนตช์ 138 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 166 กิโลกรัม)
หลังจบการแข่งขัน ปัฐษพงษ์ เปิดเผยว่า ตนลงแข่งขันซีเกมส์เป็นครั้งแรก ยอมรับว่ารูัสึกกดดัน เพราะตนอายุ 20 ปี แต่ต้องมาแข่งขันกับรุ่นใหญ่ ถือว่าเป็นผลงานที่เกินเป้าหมาย หลังจากนี้จะตั้งใจฝึกซ้อมต่อไป เพื่อเป้าหมายเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ในอนาคต
รุ่น 58 กิโลกรัม หญิง
ไทยส่ง นางสาวสุรัสวดี ยอดสาร ลุ้นเหรียญรางวัล ท่าสแนตช์ ครั้งแรกยกผ่านที่ 93 กิโลกรัม, ครั้งที่ 2 เรียกเหล็ก 95 กิโลกรัม แต่ยกไม่ผ่าน จากนั้นครั้งที่ 3 เพิ่มน้ำหนักเหล็กเป็น 96 กิโลกรัม ยกผ่านไปได้/ ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก สาวไทยโชว์แกร่ง 2 ครั้งแรกยกผ่านที่ 123 และ 128 กิโลกรัม การันตีเหรียญทองแน่นอน ต่อมาครั้งที่ 3 เรียกเหล็ก 133 กิโลกรัม หวังทำลายสถิติมาตรฐานโลกท่าคลีนแอนด์เจิร์กที่วางไว้ 132 กิโลกรัม แต่ยกไม่ผ่าน ทำให้สถิติรวมมี 224 กิโลกรัม หยิบเหรียญทองที่ 4 ให้ทีมจอมพลังไทย
เหรียญเงินเป็นของ นาตาสยา เบเตยอบ จากอินโดนีเซีย 218 กิโลกรัม (ท่าสแนทช์ 98 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 120 กิโลกรัม) และ เหรียญทองแดง ธิ ธัม ควง จากเวียดนาม 215 กิโลกรัม (ท่าสแนทช์ 96 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 119 กิโลกรัม)
ภายหลังการแข่งขัน สุรัสวดี กล่าวว่า ดีใจที่แก้ตัวสำเร็จหลังจากทำผลงานไม่ดีในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก เมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา แม้จะพลาดไม่สามารถทำลายสถิติโลกได้ก็ไม่เป็นไร จะกลับไปฝึกซ้อมให้หนักขึ้นกว่าเดิม เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันรายการระดับนานาชาติในปีหน้า
รุ่น 71 กิโลกรัม ชาย
ทีมไทยส่ง “เวฟ” จ่าอากาศตรี วีรพล วิชุมา เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” ขึ้นเวที ท่าสแนตช์ วีรพล เรียกเหล็กมากที่สุด ออกมายกเป็นคนสุดท้าย โชว์ฟอร์มสมราคา ยกผ่านไปแบบสบายๆ ทั้ง 3 ครั้ง 142, 147 และ 152 กิโลกรัม ตามลำดับ
ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก วีรพล ยังโชว์ฟอร์มสุดเหนือชั้น ครั้งแรกยกผ่านที่ 185 กิโลกรัม, ครั้งที่ 2 เพิ่มน้ำหนักรวดเดียว 10 กิโลกรัม ยกผ่านที่ 195 กิโลกรัม พร้อมทำลายสถิติโลกท่าคลีนแอนด์เจิร์กของตัวเองที่เคยทำไว้ 194 กิโลกรัม เมื่อเดือนตุลาคม 2568 ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลก โดย วีรพล ไม่ได้ออกมายกครั้งที่ 3 ทำให้สถิติรวมอยู่ที่ 347 กิโลกรัม คว้าเหรียญทองที่ 5 ให้ทีมยกน้ำหนักไทย พร้อมทำลายสถิติโลกน้ำหนักรวมของตัวเองที่เคยทำไว้ 346 กิโลกรัม เมื่อเดือนตุลาคม 2568 ในการแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งโลกด้วย
ส่วนเหรียญเงิน เป็นของ อัลเบิร์ต เอียน เดลอส ซานโตส จากฟิลิปปินส์ 324 กิโลกรัม (ท่าสแนตช์ 138 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 186 กิโลกรัม)/ เหรียญทองแดง ดุค ตอน เหงียน จากเวียดนาม 305 กิโลกรัม (ท่าสแนตช์ 135 กิโลกรัม, ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 170 กิโลกรัม)
ภายหลังการแข่งขัน “เวฟ” วีรพล เปิดเผยว่า ดีใจมากคว้าเหรียญทองซีเกมส์ได้ เพราะเป็นรายการเดียวที่ยังไม่เคยลงชิงชัยมาก่อนเลย พอใจสถิติที่ทำได้และยังทำลายสถิติโลกด้วย ซึ่งตอนซ้อมก็ได้ประมาณนี้ คิดว่าในอีกไม่นานจะยกท่าคลีนแอนด์เจิร์กได้ทะลุ 200 กิโลกรัมแน่นอน ในอนาคตมุ่งเป้าไปที่เอเชียนเกมส์ 2026 ในปีหน้า ที่ญี่ปุ่น และโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่สหรัฐอเมริกา
Advertisement