
วันที่ 17 ธ.ค.68 จากกรณีสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ล่าสุดเมื่อเวลา 21.02 น. ของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีรายงานยืนยันว่าทหารไทยได้พลีชีพเพิ่มอีก 2 นายบนสมรภูมิเนิน 350 ระหว่างการปะทะอย่างดุเดือด กับทหารกัมพูชาขณะเข้ายึดคืนพื้นที่อธิปไตยของไทย
คือจ่าสิบเอกสำเริง คลังประโคน และพลทหารภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดร.23/3 โดยขณะนี้ยังไม่สามารถนำร่างออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากยังมีการปะทะอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดรวมทหารไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนครั้งนี้เพิ่มเป็น 19 นาย
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 12 ต.ปังกู อ.ประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของ จ.ส.อ.สำเริง หรือ ซกคลังประโคน ทหารกล้าชาวอำเภอประโคนชัย พบว่าครอบครัวเริ่มกางเต็นท์เตรียมสถานที่จัดงานศพ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะแม่และพี่สาว ที่ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียเสาหลักของครอบครัว
นางอุ่น คลังประโคน อายุ 79 ปี แม่ของ จ.ส.อ.สำเริง หรือ “จ่าเริง” เปิดเผยทั้งน้ำตาว่าระหว่างเกิดการสู้รบลูกชายเป็นห่วงความปลอดภัยของแม่ จึงขอให้ไปพักอยู่ที่วัดก่อนและบอกว่าจะกลับมาหาแม่เร็วๆ แต่สถานการณ์การรบยืดเยื้อและทวีความรุนแรงจนกระทั่งได้รับข่าวร้ายว่าลูกชายได้จากไป
แม้หัวใจจะแตกสลาย แต่ผู้เป็นแม่กล่าวด้วยความภูมิใจว่า “แม่เสียใจมาก แต่ก็ภูมิใจที่ลูกได้ทำหน้าที่ของทหารปกป้องผืนแผ่นดินไทยแม้ในนาทีสุดท้ายของชีวิต”
ด้านนางสาวชงโค คลังประโคน อายุ 48 ปี พี่สาวของจ่าเริง กล่าวว่า น้องชายสมัครเป็นทหารด้วยความสมัครใจ ไม่ได้ถูกเกณฑ์ โดยตั้งใจอยากรับใช้ชาติในพื้นที่เสี่ยง เช่นภาคใต้ แม้ไม่ถูกส่งไปตามความตั้งใจแรก แต่น้องชายก็ภูมิใจที่ได้เข้าไปรบที่ชายแดนนี้
ครั้งสุดท้ายที่น้องโทรมาแจ้งว่า "ผมทำสำเร็จแล้ว" ยึดปราสาทตาควายได้แล้ว เป้าหมายหน้าคือเนิน 350 จะต้องทำให้ได้ น้องชายยังเล่าอีกว่าสถานการณ์การรบจริงโหดร้ายกว่าในข่าวที่ออกสื่อทางทีวี แต่ไม่กลัวจะทำให้ดีที่สุด
ครั้งนี้ถือว่าน้องชายได้ทำหน้าที่สมบูรณ์ที่สุดแล้ว พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้การสูญเสียครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้มีศพใครเพิ่มอีก ความสูญเสียแบบนี้ไม่มีอะไรชดเชยได้เลย สภาพจิตใจครอบครัวแย่มาก ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัยและผ่านเหตุการณ์นี้ไปให้ได้
Advertisement