
วันที่ 8 ธ.ค.68 หลังจากกองทัพภาคที่ 2 ได้โพสต์ข้อมูลเตือนประชาชน พร้อมกับชี้แจงสถานการณ์ว่าฝ่ายทหารกัมพูชากำลังเคลื่อนย้ายอาวุธหนักในเขตพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า,ช่องจอมและช่องเสม็ด
และคำเตือนสุดท้ายกองทัพภาคที่ 2 ระบุตรวจพบทหารกัมพูชา สั่งการให้กำหนดเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนเล็งมาที่พื้นที่บ้านกะชายน้อย ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน ห่างจากท่าอากาศยานบุรีรัมย์ประมาณ 13 กม. และบ้านจรูกแขวะ ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ห่างจากชายแดน 31 กม.
คำเตือนดังกล่าวสร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านกะชายน้อยเป็นอย่างมาก เพราะอำเภอบ้านด่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ไป 15 กม.และมีรัศมีที่ห่างจากชายแดนมากกว่าตัวเมืองบุรีรัมย์ แต่กลับมีชื่อแจ้งเตือน
นางอำนวยมาตา ชาวบ้านกะชายน้อย บอกว่า ส่วนตัวไม่ทราบแต่ลูกสาวทำงานอยู่กรุงเทพฯโทรศัพท์มาบอกว่า ให้ระวังเขมรจะยิงมาตกใจมากเพราะในประวัติศาสตร์พื้นที่นี้ไม่เคยมีภัยแบบนี้มาก่อน
ด้านนายสราวุธ ดำริห์ ผอ.โรงเรียนวัดบ้านกะชาย กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียนมากกว่า 180 คน ครูอีกกว่า 20 คน หลังทราบข่าวได้ทำการประสานทางนายอำเภอ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต1
เบื้องต้นให้ระมัดระวังและให้ความสำคัญความปลอดภัยของเด็กเอาไว้ก่อน โดยได้สั่งทำการสั่งปิดโรงเรียน 2 วันเอาไว้ก่อน เพื่อให้นักเรียนและผู้ปกครองได้เตรียมพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้นจริงๆ
ยอมรับว่าตอนนี้ทั้งผู้ปกครอง นักเรียนและชาวบ้านทั่วไป ต่างวิตกกังวลเป็นอย่างมาก และมีชาวบ้านรวมถึงร้านค้าปิดร้านอพยพออกจากหมู่บ้านไปอาศัยอยู่กับญาติแล้ว เป็นจำนวนมากแล้ว
Advertisement