
จากกรณีนี้ที่มีคลิปทหารเขมรเข้าไปตัดไม้ในพื้นที่โดยรอบปราสาทตาควายพื้นที่ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงข้อกังวลในการยึดคืนพื้นที่ดังกล่าวขึ้นมา ว่าสุดท้ายแล้วไทยจะต้องเสียพื้นที่ปราสาทตาควาย และสูญเสียป่าไม้ในแถบนั้นไปอีก
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้คุยกับนายลำพอง ทิดมี อดีตเจ้าหน้าที่ป่าต้นน้ำเทือกเขาพนมดงรัก เจ้าตัวบอกว่าในอดีตนั้น ปี 2530 พื้นที่ปราสาทตาควาย เป็นป่าเสื่อมโทรมรวมถึงตลอดแนวสันปันน้ำพนมดงรัก เพราะว่าเขมรเข้ามาตัดไม้และเผาป่าทำให้ต้นไม้ใหญ่ไม่มี ตนเองกับพวกจึงเข้าไปปลูกต้นยูคาลิปตัส ต้นกระถินณรงค์ และกล้าไม้อื่นๆ ตั้งแต่พื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ไปจนถึงช่องจอม อำเภอกาบเชิง โดยมีคำสั่งให้ตนเองกับพวกไปปลูกป่าต้นน้ำ ตั้งแต่สันปันน้ำเรื่อยมาในเขตฝั่งไทยลงมา
ซึ่งก็ยอมรับว่าการปฎิบัติหน้าที่ในการปลูกป่านั้นเสี่ยงทุกฝีเก้า เพราะว่ามีเขมรแดงที่อยู่ในพื้นที่ เจอกันก็จะประทะกัน แม้ว่าในเวลาที่ตนเองปฏิบัติหน้าที่ก็จะต้องประสานตำรวจพลร่มรวมถึงทหารพรานเข้ามาคุ้มกันก็ตาม
ยอมรับว่าชีวิตต้องไปทุ่มเทอยู่กับเทือกเขาพนมดงรัก เพราะต้องการสร้างป่าให้คนสุรินทร์มีน้ำกินน้ำใช้ พวกตนเองนั้นและทหารตำรวจตชด.ทุ่มเทมาก จนทำให้ชีวิตครอบครัวบางคนพังไปเพราะไปกินอยู่หลับนอนปกป้องป่า ปกป้องแผ่นดิน
ยิ่งมาเห็นว่าสุดท้ายแล้ว สิ่งที่ทำลงไปนั้นอาจจะสูญเปล่า และถูกทำลายโดยฝีมือของเขมร ยิ่งทำให้รู้สึกเจ็บใจซึ่งความรู้สึกนี้ก็เช่นเดียวกับทหารและเจ้าหน้าที่ในอดีตที่ร่วมกันปกป้องพื้นที่เทือกเขาพนมดงรัก อย่างปราสาทตาควาย ปราสาทคนา และตอนนี้มีพื้นที่บ้านกรวดบุรีรัมย์อีก ที่สุดท้ายแล้วตอนนี้เขมรก็เข้ามายึด ก็ไม่รู้ว่าทหารระดับสูงมีวิธีที่จะเอาคืนกลับมาได้อย่างไร แต่ตนเองก็เชื่อว่าทหารที่อยู่นั้นแนว ตอนนี้ก็คงพร้อมเช่นกัน นายลำพอง กล่าวไปพร้อมกับน้ำตาซึมออกมาด้วยความเจ็บใจ
Advertisement