
(26 พ.ย. 2568) สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.ปัตตานี ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังตลอดคืนที่ผ่านมาเกิดพายุฝนตกหนักอย่างไม่ขาดช่วง ประกอบกับมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ไหลมาจาก จ.ยะลา ได้ไหลเข้ามาสมทบกับน้ำในแม่น้ำปัตตานีซึ่งมีระดับสูงจนล้นตลิ่งอยู่ก่อนแล้ว ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในเขตเทศบาลนครปัตตานีทั้งเมือง
ถนนหลายสายมีระดับน้ำสูงตั้งแต่ 40-50 เซนติเมตรขึ้นไป โดยเฉพาะบริเวณถนนในเขตจะบังติกอ มีระดับน้ำสูงกว่า 80-100 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มใช้เรือในการสันจร บางหลังไม่มีเรือต้องเดินลุยน้ำออกมาซื้ออาหารและของใช้จำเป็น เนื่องจากการสัญจรด้วยรถจักรยานยนต์และรถยนต์ขนาดเล็กไม่ได้
สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงกลางดึกทั้งบริเวณถนนหน้าโรงพยาบาลและรอบตึกผู้ป่วย ทำให้การเข้ารับการรักษาของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ขึ้นที่สูง เพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกันรถพยาบาลบางส่วนต้องใช้เส้นทางอ้อมหรือเปลี่ยนไปใช้รถสูง และเรือในการรับ-ส่งผู้ป่วย
ข้อมูลจาก จ.ปัตตานี ณ วันที่ 25 พ.ย. 2568 เวลา 22.00 น. ระบุว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 12 อำเภอ 115 ตำบล 648 หมู่บ้าน 46 ชุมชน รวม 114,620 ครัวเรือน ประชาชน 338,928 คน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ราย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ รวมถึงอาสาสมัครกู้ภัยหลายหน่วยยังคงเร่งให้การช่วยเหลือประชาชนที่ถูกตัดขาดในหลายพื้นที่ ขณะเดียวกันจังหวัดเตือนประชาชนให้งดเดินทางในเส้นทางน้ำเชี่ยว พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมวลน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมหลายชุมชนมีระดับน้ำสูงเฉลี่ย 2-3 เมตร และบางหมู่บ้านมีน้ำลึกถึง 4 เมตร ซึ่งถือว่ารุนแรงที่สุดเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ปี 2567 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำปัตตานี บ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วมตั้งแต่ชั้นล่าง และหลายหลังมีน้ำสูงเกือบถึงชั้นสอง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก หลายครอบครัวต้องย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังตลอดทั้งคืนเพราะกังวลว่าน้ำอาจเพิ่มขึ้นอีก รองผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ทุ่งยางแดง หลังดินโคลนถล่มเส้นทางเขา บ้านเรือนเสียหายหลายหลัง
ขณะที่ นายไชยพร นิยมแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยนายอำเภอทุ่งยางแดง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง หลังเกิดเหตุดินโคลนถล่มบริเวณเส้นทางขึ้นเขา ระหว่างรอยต่อ อ.ทุ่งยางแดง และ อ.มายอ ดินโคลนจำนวนมากได้ไหลลงสู่บ้านเรือนชาวบ้าน ส่งผลให้ หลายหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก ต้นไม้โค่นล้มหลายต้น โชคดีที่ขณะเกิดเหตุชาวบ้านสังเกตเห็นความผิดปกติและรีบหนีออกจากบ้านได้ทัน จึงไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างประสานเครื่องจักรเข้ารื้อดินและเปิดทางสัญจร
สำหรับอำเภอทุ่งยางแดงมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.ตะโละแมะนา, พิเทน, น้ำดำ และ ปากู รวม 20 หมู่บ้าน 3,161 ครัวเรือน 9,483 คน
Advertisement