เปิดแนวรบตาควาย พบ 2 กระเช้าทหารเขมร ตรึงกำลังกว่า 3 พันนาย

เพจดังแฉพบ 2 กระเช้าทหารเขมรที่ปราสาทตาควาย ใช้ขนกำลังและอาวุธ ล่าสุดตรึงกำลังกว่า 3 พันนาย

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กำลังตึงเครียด ล่าสุด เพจ Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ โพสต์ข้อความระบุว่า

กระเช้าที่แนวรบตาควายมีกี่จุด มันอยู่ที่ใดบ้าง แล้วมันใช้เพื่อวัตถุประสงค์ใด มาวิเคราะห์กัน จากการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดในขณะนี้พบว่ามีกระเช้าอย่างน้อย 2 จุด ในพื้นที่แนวรบตาควาย

ต้องอธิบายภูมิประเทศแถบนี้ในฝั่งทางเขมรครับ

ในพื้นที่ชายแดนทางเหนือของเขมรจะเป็นพื้นที่ราบ จากนั้นภูมิประเทศจะเปลี่ยนเป็นหน้าผา

สูงชันบางจุดอาจจะเป็นเขาสูง

บริเวณแถบตาควายจะมีลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน คล้ายขั้นบันไดครับ

โดยพื้นที่ฝั่งราบเขมรเปรียบเหมือนพื้นขั้นแรก ต่อมาขั้นสอง คือพื้นที่ราบที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 260 เมตร ซึ่งตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของฐานทหารเขมรหลายจุด และจุดนี้ยังมีถนนจากทมอโดน(หรือแถวช่องกร่าง) ที่ใช้ขนส่งกำลังบำรุงมาได้ถึงบริเวณนี้

ซึ่งพื้นที่ราบชั้นที่ 2 ตรงนี้ต่อไปผมจะเรียกว่าฐานทหารเขมร 260 (ตั้งชื่อตามความสูงของพื้นที่ เพื่อความเข้าใจง่ายๆ )

ขั้นสามคือยอดเนิน 350 ตัวเลข 350 ก็มาจากความสูงของยอดบนสุดของเขาลูกนี้คือ 350 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

นั่นหมายความว่า จากยอดเนิน 350 กับฐานทหารเขมร 260 ระยะความสูงห่างกัน 90 เมตร โดยประมาณ

แต่ด้วยความชันของเนินในฝั่งเขมรซึ่งน่าจะประมาณ 35-40 องศา การสร้างถนนขึ้นเนินคงยาก เขมรจึงสร้างบันไดปูนเอาไว้ขนส่งกำลังบำรุงขึ้นยอดเนิน

มาดูที่เรื่องกระเช้าต่อครับ ในปัจจุบันกระเช้าอย่างน้อยมีสองจุดครับ

แรกเริ่มเดิมทีทหารกัมพูชามีการสร้างกระเช้าเมื่อนานมาแล้ว(เข้าใจว่าตอนที่มายึดพื้นที่นี้ได้ก็เริ่มสร้างกระเช้า) กระเช้านี้ขนได้ทั้งคน ทั้งของ จะเห็นได้จากโครงสร้างฐานกระเช้าที่มีขนาดใหญ่และคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกไป

โดย กพช. จะมีการตัดถนนแยกออกจากถนนเลียบชายแดนเช้าไปสู่บริเวณฐานกระเช้า

ตรงบริเวณฐานกระเช้าด้านล่างมีการสร้างศาลาพักอยู่ตามภาพครับ

จากคลิปที่เผยแพร่ออกมาจะเห็นว่าในช่วงแรกของกระเช้าจะเป็นลักษณะใช้กระเช้าแบบระบบราง พอได้สักครึ่งทางก็มีการเปลี่ยนกระเช้าเป็นระบบสลิงเพื่อขึ้นสู่ฐานทหารเขมร 260 ต่อไป

ถ้าให้ผมวิเคราะห์ ผมคิดว่าในช่วงแรกที่กระเช้าใช้ระบบราง น่าจะเป็นช่วงที่พื้นที่ไม่ลาดชันมากนัก แต่พอถึงจุดที่จะต้องเปลี่ยนกระเช้าเป็นระบบสลิง ตรงนั้นจะเป็นจุดที่มีความลาดชันสูงจนขึ้นไปที่บนฐานทหารเขมร 260

ภาพที่ฝั่งเขมรถ่ายกระเช้ามีให้เห็นบ้างแต่ไม่มีคลิปใดเลยจะชัดเจนเท่าคลิปที่ผมตัดภาพออกมาครับ ซึ่งผมจะโพสต์คลิปไว้ในช่องแสดงความคิดเห็น

จะเห็นได้ว่ากระเช้าขึ้นมายังฐานทหารเขมร 260 ขึ้นมาได้ทั้งคนทั้งของครับ

ส่วนกระเช้าช่วงที่สองจะสร้างจากพื้นที่ฐานทหารเขมร 260 เพื่อขึ้นไปบนยอดเนิน 350

ซึ่งทหาร กพช. มีการสร้างถางป่าเป็นแนว และสร้างฐานกระเช้าสลิงขึ้นหลังจากสงคราม 5 วัน

การสร้างกระเช้าตัวนี้สร้างจากพื้นที่ฐานทหารเขมรที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลประมาณ 260 เมตร ที่อยู่ใกล้ตีนเนิน 350 ขึ้นบนยอดเนิน 350

อันนี้ดูจากโครงสร้างฐานกระเช้าผมประเมินว่าน่าจะใช้ส่งของอย่างเดียวครับ

บางคนอาจจะคิดว่าทหารเขมรใช้กระเช้าส่งอาวุธ เสบียงอาหาร อย่างเดียว อันนั้นก็ถูกส่วนหนึ่ง

ตั้งแต่ผมติดตามทั้งภาพและคลิปฝ่ายเขมรในแถบนี้มา

ผมเชื่อว่ามีสิ่งที่เป็นสาเหตุและที่มาของการสร้างกระเช้าขึ้นเนิน 350

นั่นก็คือ แผ่นปูนที่หล่อสำเร็จ แล้ว

หลังจากที่ไทยและกัมพูชาพักรบกัน สิ่งสําคัญที่สุดของทั้งสองฝ่ายคือการสถาปนาที่มั่นให้แข็งแรงที่าดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรอรับการรบที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

ก่อนหน้านี้มีผมตรวจพบว่าทาง กพช. มีการหล่อแผ่นปูนและโครงสร้างของคอนกรีตในรูปแบบต่างๆจำนวนมาก ในพื้นที่บริเวณ ของที่ราบฐานทหารเขมร 260

แล้วมีภาพหลุดบางภาพที่เห็นมีการวางแผนคอนกรีตจำนวนมากอยู่ข้างๆกระเช้า ในลักษณะที่รอการขนส่งขึ้นไป

ผมจึงถึงบางอ้อที่ว่าหนึ่งในเหตุผลของการสร้างกระเช้าเพื่อใช้ขนแผ่นคอนกรีตสำเร็จขึ้นไป

คำถามคือแล้วทำไมทหาร กพช. ไม่เอาปูนผงแบกขึ้นไป หรือส่งขึ้นกระเช้าไป เพื่อไปผสมหล่อเป็นบังเกอร์ด้านบนเนิน350 เลยทีเดียว จะมาหล่อข้างล่างให้ยากทำไม

คำตอบคือน้ำครับ น้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการผสมปูนเพื่อเททำคอนกรีต บนยอดเนิน 350 ไม่ได้มีแหล่งน้ำครับจึงไม่สามารถทำการผสมปูนได้

เมื่อเรามาดูภาพถ่ายดาวเทียมที่บริเวณฐานทหารเขมร 260 ตลอดแนวถนนมีการขุดบ่อน้ำจำนวนมาก นั่นแสดงให้เห็นว่าบริเวณแถบนี้มีน้ำที่เอาไว้ใช้งานผสมปูนได้ครับ

สรุปกระเช้าเก่ามีไว้ขนทั้งคน ทั้งของ ร่นระยะทางจากตีนเขาชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 2(ฐานทหารเขมร260) ได้มากกว่า 14 กิโลเมตร(วิ่งไปทางทมอโดน 7 กิโลเมตร แล้ววิ่งตามถนนคอนกรีตด้านบนกลับมาอีก 7 กิโลเมตร) หากต้องเดินทางจากพื้นที่ราบชั้นแรกขึ้นสู่ฐานทหารเขมร 260

ส่วนกระเช้าที่สร้างใหม่ในช่วงแรกวัตถุประสงค์หลักน่าจะเป็นการขนส่งแผ่นคอนกรีตสำหรับสร้างบังเกอร์ที่ทหารเขมรไม่สามารถแบกขึ้นบันไดได้

ผลพลอยได้ในช่วงนี้คือการขนส่งข้าวของอาหาร อาวุธ ขึ้นเนิน 350

และเมื่อบังเกอร์สร้างเสร็จแล้ว ช่วงหลังจากนั้นก็คงจะเอาไว้ใช้ส่งอาหารส่งอาวุธขึ้นเนิน 350 แทน

ผมมาคิดเอะใจในสิ่งที่ผมได้ข้อมูลก่อนหน้านี้เรื่องสลิงปราสาทคนา

ผมว่าทหารเขมรต้องการสร้างเพื่อใช้ขนแผ่นคอนกรีตเช่นกัน เพราะอะไรนะเหรอ ผมย้อนคิดไปครั้งแรกที่ผมเจอข้อมูลพระที่คุมงานสร้างกระเช้าที่ปราสาทคนา

พระรูปนี้บอกว่าระบุว่าจะขุดบ่อ หรือขุดหาน้ำอะไรประมาณนั้นครับ ซึ่งน้ำก็เป็นสิ่งสำคัญในการหล่อคอนกรีต

และที่สนับสนุนแนวคิดว่าเขมรจะหล่อคอนกรีตตรงตีนเขาปราสาทคนา ก็เพราะพื้นที่ที่ทหารเขมรที่ยึดปราสาทคนาอยู่แทบจะไม่มีแหล่งน้ำเลย ถึงมีก็คงอาจจะไม่เพียงพอในการหล่อแผ่นปูนเพื่อนำไปทำบังเกอร์อยู่ดีครับ จึงต้องหล่อจากด้านล่างแล้วส่งขึ้นไปด้านบนแทน เรื่องคนาผมวิเคราะห์แบบนี้นะครับ