พลอย Pigkaploy เตือนสติ แจ็กแปปโฮ ทำคนญี่ปุ่นมองนักท่องเที่ยวไทยแง่ลบ

พลอย Pigkaploy เตือนสติ แจ็กแปปโฮ ทำคนญี่ปุ่นมองนักท่องเที่ยวไทยแง่ลบ ด้านชาวเน็ตแห่แท็กแจ้งตำรวจญี่ปุ่นให้เอาผิดด้านกฎหมาย

จากกรณีแจ็กแปปโฮ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้ทำคอนเทนต์ ถอดเสื้อขึ้นไปโชว์เต้นทำบนหลังคารถ พร้อมแคปชั่น "แม้ใครจะดูถูกฉัน ไม่สนใจคำพูดเหล่านั้น"

ซึ่งจุดดังกล่าวอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ลอว์สัน สาขาที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ สัญลักษณ์สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวและคนญี่ปุ่นที่เดินผ่านไปผ่านมา

หลังคลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยหลายคนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไ่มเหมาะสม ทำเสียชื่อประเทศไทยอีกแล้ว

แต่งานนี้ฝั่ง แจ็กแปปโฮ ก็สู้มื่อชาวเน็ต ตอบกลับเกือบทุกคอมเมนต์ เช่น

ชาวเน็ต : งานนี้มีขอโทษชัวร์

แจ็กแปปโฮ : ชัวร์คือใคร

ชาวเน็ต : ขอล่ะครับ อย่าหาทำอะไรบ้านนอกๆแบบนี้เลยครับ คุณเป็นนักท่องเที่ยว มาแปปเดียวก็กลับ แต่ทำตัวแบบนี้ เพื่อนร่วมชาติที่เขาอาศัยทำงานอยู่ที่นี่จะถูกเหมารวมไปด้วย ละช่วงนี้กระแสไม่เอาคนต่างชาติยิ่งแรงๆอยู่

แจ็กแปปโฮ : เค้าจะรู้เหรอครับว่าผมเป็นคนคนไทย

ต่อมาแฟนสาวของแจ็กแปปโฮ ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า

"โพสต์นี้จะไม่ขอปกป้องใคร ขอปกป้องตัวเองกับลูก

ครั้งนี้ ห้ามแล้วค่ะ มันไม่ฟัง มีลูกแล้วแต่ไม่เคยมีสติ ไม่นึกถึงลูก

ขอความกรุณาอย่าว่าโมกับลูกเลย รู้เรื่องค่ะ แต่คุมไม่ได้จริงๆยอมรับค่ะ บอกให้ลบคลิปก็ไม่ลบ ก็ตามภาพลักษณ์ของเค้าเองเลยค่ะ ในคลิปที่ยิ้มคือทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน เพราะโฟกัสลูกพึ่งเปลี่ยนเพิสเสร็จ ลูกก็จะวิ่งตามแต่พ่อมัน

หลังจากนี้ก็คงยอมรับตามสภาพให้เป็นเรื่องหลังบ้านครอบครัวค่ะ

#ก็ถูกของทุกคนแหละค่ะมันอยู่ในจุดที่ใครเตือนไม่ได้"

กระทั่งทนดรามาไม่ไหว แจ็กแปปโฮ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ Jaturong Papho ระบุว่า

ที่ผมไม่ลบโพสต์ คือผมไม่ต้องการหนีปัญหา

อย่างน้อยๆ นี่ก็เป็นการผิดพลาดเพื่อแก้ไขปรับปรุง

ไม่ใช่ลบเพื่อให้คนลืมไปว่าเราไม่ได้ทำ

เราทำให้มันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ทำ

ผมน้อมรับทุกคำด่า…

#ขออภัยทุกคนด้วยครับ

ล่าสุด “พลอย พลอยไพลิน” หรือ Pigkaploy ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวและอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ได้เข้ามาคอมเมนต์ โดยระบุว่า

“ช่วงนี้ญี่ปุ่นกำลังเจอปัญหา overtourism (นักท่องเที่ยวล้น) หนักมากจนคนท้องถิ่นเดือดร้อน ทั้งเรื่องมารยาท การรบกวนพื้นที่สาธารณะ ตอนนี้หลายเมืองเริ่มออกกฎเข้ม บางที่จำกัดจุดถ่ายรูป ปรับเงิน หรือปิดเส้นทาง tourist เพราะนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม “ทำตัวเหมือนสถานที่เป็นของตัวเอง”

คลิปนี้อาจมีคนมองว่าตลก แต่มันเป็นตัวอย่างชัดเจนของสิ่งที่ทำให้คนญี่ปุ่นเบื่อ และเริ่มมองนักท่องเที่ยว (รวมถึงคนไทย) ในแง่ลบ เราอาจคิดว่าแค่ปีนรถเล่นไม่น่าเป็นไร แต่ในสายตาคนท้องถิ่น = ไม่เคารพกฎระเบียบ + รบกวนคนรอบข้าง + ทำให้ภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวเสีย

และที่น่าเป็นห่วงคือ พอมีคนเตือนเรื่องมารยาท พี่ดันโดนสวนกลับด้วยการล้อเลียน อยากให้พี่แค่เคารพพื้นที่คนอื่นเหมือนตอนที่เราอยากให้คนอื่นเคารพบ้านเรา แค่นี้ก็เพียงพอแล้วนะคะ

เที่ยวให้สนุกได้ค่ะ แต่อย่าลืมว่าทุกการกระทำของเรา = ภาพลักษณ์ของคนไทยทั้งประเทศในสายตาคนนอก พลอยติดตามพี่มานานตั้งแต่เด็กๆเลยนะคะ ชื่นชอบพี่มากๆ"

ขณะที่ล่าสุดชาวเน็ตได้เรียกร้องไปที่หน่วยงานในญี่ปุ่น คือ สถานีตำรวจจังหวัดยามานาชิ พร้อมคลิปวีดีโอดังกล่าวของยูทูปเบอร์ดัง

โดยเพจ J-doradic ระบุว่า ซึ่งสถานีตำรวจนี้เป็นจังหวัดที่รับผิดชอบพื้นที่ของ Lawson สาขาคาวากุจิโกะที่ยูทูปเบอร์ดังกล่าว

โทษทางกฎหมายที่เอาผิดได้"ความผิดฐานฝ่าฝืนข้อห้ามทำพฤติกรรมรบกวนในที่สาธารณะ " ในกรณีที่ร้ายแรงที่สุด อาจถูกลงโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 เยนได้ ซึ่งเจ้าตัวมีทั้งถอดเสื้อ ทั้งปีนรถเต้น ซึ่งถือว่าเข้าข่ายทำพฤติกรรมก่อกวนในที่สาธารณะ

ขณะที่ล่าสุดพบว่า ชาวเน็ตไทยจำนวนมาก เข้าไปแสดงความคิดเห็นในเพจเฟซบุ๊ก “สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น - 在東京タイ王国大使館” และ เพจ Embassy of Japan in Thailand/สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

เพื่อให้สถานทูตดำเนินการเอาผิด เนื่องจากสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์นักท่องเที่ยวไทยอย่างมาก

เช่น

- ขอให้ black list ห้ามเข้า ญี่ปุ่น และดำเนินคดีที่ญี่ปุ่นให้ถึงที่สุดครับ

- แบนไม่ให้เข้าญี่ปุ่นทีค่ะ ดำเนินคดีที่ญี่ปุ่นด้วยเลยค่ะ

- เปลี่ยนมาใช้วีซ่าเข้าประเทศเหมือนเดิมก็ได้นะคะ เพราะ เราก็อยากให้นักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพดีจากไทยไปเที่ยวที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน

- กราบขอโทษชาวญี่ปุ่นทุกท่าน ที่พลเมืองไทยไปแสดงพฤติกรรมที่ไม่สมควรในประเทศของท่าน ขอให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในญี่ปุ่นลงโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากชาติอื่นอีกต่อไป ขอกราบขอโทษมา ณ ที่นี้