
วันที่ 16 พ.ย.2568 สถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ล่าสุดตรวจสอบน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนฯที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิระประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำเหนือมีปริมาณสูงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดได้ 2,965 ลบ.ม./วิ แต่ระดับน้ำเหนือเขื่อนเริ่มกลับมายกตัวขึ้นวัดได้ 17.49 ม.รทก. ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับลดการระบายน้ำจากเดิม 2,900 ลบ.ม./วิ ลงไปที่อัตรา 2,800 ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบท้ายเขื่อน ซึ่งล่าสุดระดับน้ำท้ายเขื่อนลดลง 10 ซ.ม.ใน 24 ชม.วัดได้ 16.49 ม.รทก. และจะมีผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทองและจ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะลดลง 5-10 ซม.ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงแจ้งเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและให้ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ล่าสุดพบว่ายังคงมีพื้นที่น้ำท่วมหนัก และระดับน้ำยังสูงไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลายพื้นที่ริมตลิ่ง 2 ฝั่งแม่น้ำถูกน้ำทะลักเข้าท่วมแล้วถึง 5 ตำบล คือ 3 ตำบลฝั่งซ้ายประกอบด้วย ต.ตลุก ต.หาดอาษา ต.โพนางดำออก และ 2 ตำบลฝั่งขวาประกอบด้วย ต.บางหลวง และต.โพนางดำตก ที่ระดับน้ำมีความลึกตั้งแต่ 30 ซม. - 3 ม.ในที่ลุ่มต่ำ ทำให้ชาวบ้านหลายชุมชนที่ต้องทนถูกน้ำท่วมมายาวนานกว่า 2 เดือนทำให้ชาวบ้านต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน เพื่อเข้ไปดูแลทรัพย์สินในบ้าน และบางส่วนมีผู้ป่วยและผู้สูงอายุที่ไม่สะดวกในการอพยพอาศัยอยู่บนชั้น 2 ของบ้าน อีกทั้งยังพบว่าชาวบ้านจำนวนมาก เริ่มป่วยทั้งน้ำกัดเท้าผื่นคันและโรคเครียดจากสถานการณ์น้ำ มาขอคำปรึกษาและรับยาจากเจ้าหน้าที่รพ.สต.ในพื้นที่เพิ่มขึ้น
ปภ.จังหวัดชัยนาท รายงานสรุปภาพรวมของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จ.ชัยนาทล่าสุด ว่า จ.ชัยนาท มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งสิ้น 5 อำเภอคือพื้นที่เหนือเขื่อน 4 อำเภอได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.สรรคบุรีและอ.เมืองชัยนาท กับพื้นที่ท้ายเขื่อน 1 อำเภอคือ อ.สรรพยา แยกเป็น 24 ตำบล 94 หมู่บ้านบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 5,560 ครัวเรือนมีผู้ประสพภัยรวมทั้งสิ้น 15,950 คน
Advertisement