
วันที่ 11 พ.ย.2568 จากกรณีที่มีเพจเฟซบุ๊ก “คัลแลน พี่จอง แฟนคลับ” ได้โพสต์เรื่องราวที่ไปเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ว่า “ถ้าแฟนพวกเราพูดไทยไม่ได้ ไม่โดนหนักกว่านี้เหรอคะ โอ้ยยยยป้า อึ้งตั้งแต่เอาตะขอเกี่ยวเข้าร้านแล้ว พี่จอง เก่งมาก อวยยศให้เลยค่ะ รู้จักปฏิเสธแล้ว แต่นิดหน่อยชั่วโมงบินยังน้อยกว่าป้าตะขอเยอะสุดท้ายโดนโขกแบบงงๆ แพงไม่ซื้อขร่าบแต่ไม่รอด ป้าเตรียมตัวรับรถทัวร์ แต่ไม่ได้มาซื้อกางเกงนะคะ ดูพี่ครับร้านอาหารริมทะเลอ่าวมะนาวเป็นตัวอย่างนะคะ อันนั้นรถทัวร์จะมากินแกงส้มค่ะ น่ารัก ไม่โก่งราคา”
พร้อมกับลงคลิปภาพวิดีโอ ที่เจ้าของร้านขายเสื้อผ้าริมคลองดำเนินฯพยายามจะขายเสื้อ และกางเกงให้มีการต่อรองราคาจาก 1,000 บาท ให้เหลือ 800 บาท แต่แม่ค้ายืนยันลดได้แค่ 100 บาท เหลือราคา 900 บาท ซึ่งภายหลังที่โพสต์เรื่องนี้ลงในโซเซียล ทำให้บรรดาแฟนคลับของคัลแลน พี่จอง ซึ่งเป็นอินฟลูชื่อดังชาวเกาหลี มีผู้ติดตามหลายล้านคน ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและต่อว่าแม่ค้าที่ขายเสื้อและกางเกงช้างให้ในราคาแพง จนทำให้เกิดไวรัลในโลกออนไลน์
ล่าสุดในวันนี้ ( 11พ.ย. 68) นายธรณินทร์ บรรยงวรพินิจ พานิชย์จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยนางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี นายบุญสืบ ขลิบเพ็ง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ดำเนินสะดวก และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ได้เข้าไปตรวจสอบที่ร้านขายเสื้อผ้าของนางประภาพร (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งตั้งอยู่ริมคลองดำเนินสะดวก และเป็นร้านต้นเหตุที่ คัลแลน พี่จอง อินฟลูดัง มาซื้อเสื้อและกางเกงช้างในราคาแพงกว่าชาวบ้าน ซึ่งนางประภาพร ก็ยอมรับว่าในวันเกิดเหตุมีชายชาวต่างชาติ 2 คน มาซื้อเสื้อกับกางเกงช้างในราคา 900 บาท จริง แต่เสื้อนั้นเป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวบนเสื้อปักรูปมังกร จึงมีราคาแพงตัวละ 500 บาท ส่วนกางเกงช้างก็มีหลายเนื้อผ้า ซึ่งไม่แน่ใจว่าลูกค้าซื้อเนื้อผ้าแบบไหนไป เพราะเหตุเกิดตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ก็ยอมรับว่าขายราคาแพง และไม่ได้มีการติดป้ายบอกราคา จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการเปรียบเทียบปรับในราคา 2,000 บาท และยังมีในส่วนอื่นๆอีกที่ทางร้านจะต้องนำเอกสารไปชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งนางประภาพร ได้กล่าวขอโทษกับ คัลแลน พี่จอง อินฟลูดัง ผ่านสื่อด้วย และยินดีจะโอนเงินคืนทั้งหมด และยินดีที่จะยกเสื้อกับกางเกงชุดนั้นให้ด้วย
ด้านนายธรณินทร์ บรรยงวรพินิจ พานิชย์จังหวัดราชบุรี บอกว่า หลังได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทางหน่วยงานก็มีการบูรณาการร่วมกันในการมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็พบว่าทางร้านไม่ได้มีการปิดป้ายแสดงราคา ซึ่งเป็นความผิด มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท แต่วันนี้ทางเราปรับไปเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท ส่วนราคาของที่แพงเกินสมควร ก็ได้แจ้งให้ทางเจ้าของร้านเข้าไปชี้แจงถึงต้นทุน และราคาต่างๆเพื่อประกอบการพิจารณา เพราะในมาตรา 29 ระบุไว้ว่า การจำหน่ายสินค้าในราคาที่สูงเกินสมควร จะมีโทษปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของร้านค้าอื่นๆรวมทั้งค่าเรือด้วย ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มาประชาสัมพันธ์ให้มีการปิดป้ายแสดงราคาตลอด จึงอยากฝากเตือนให้ผู้ประกอบการทุกท่าน ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของการติดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจนแล้วก็ในส่วนของราคา ก็ให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด
ด้านนางกาญจน์กุระ ฮัยสคาเนน ท่องเที่ยวและกีฬา จ.ราชบุรี ก็บอกว่า ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ยังเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตที่เป็นอัตตาลักษณ์ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี ทำให้การค้าขายสินค้านั้นยังไม่ค่อยดี แต่หากนักท่องเที่ยวพบร้านไหนขายราคาแพง หรือไม่ติดป้ายแสดงราคาก็ไม่ควรจะเข้าไปซื้อ ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าทุกคนควรจะทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ก็จะเป็นภาพลักษณ์ที่ดีของตลาดน้ำดำเนินสะดวก และจะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวอย่างแน่นอน
Advertisement