วันนี้ (22 ต.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานบ่ายวานนี้ นายวีระพล รักเสมอวงศ์ นายกเทศเมืองบ้านดุง รับแจ้งจากตร.สภ.บ้านดุง แจ้งว่ามีประชาชนมาร้องขอความช่วยเหลืออยากกลับบ้านเพราะไม่มีเงิน หลังจากเดินทางเข้ามาในตัวอำเภอเพื่อลงทะเบียนโครงการ “คนละครึ่ง” ของรัฐบาล แต่ลงไม่ได้และเงินหมดไม่มีค่ารถกลับบ้านจึงได้ประสานมายังนายกฯให้การช่วยเหลือต่อมาจึงไปตามตัวพบกับชายคนดังกล่าวเดินอยู่แถว บขส.บ้านดุง
ทราบชื่อนายชาลี ไชยโพธิศาล อายุ 54 ปี ชาวบ้านไผ่ล้อม ต.อ้อมกอ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แต่งกายด้วยเสื้อผ้าเก่าๆมีกระเป๋าสีดำใบเดียวในกระเป๋า มีเอกสารทั้งบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และบัตรคิวของธนาคารที่มารับลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง
นายชาลี เล่าว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.68 ที่ผ่านมา ตนเองจ้างรถสามล้อจากบ้านระยะทาง 15 กม.มาส่งหน้าธนาคารกรุงไทยสาขา อ.บ้านดุง เพื่อรอลงทะเบียนคนละครึ่งวันแรกยังไม่เสร็จเพราะคิวคนเยอะ จึงนอนค้างคืนหน้าธนาคารต่อวันที่ 2 จนถึงเมื่อวานรอจนเช้าถึงบ่ายถึงได้ลงทะเบียน ตนเอาเอกสารมาครบทั้งสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านแต่เจ้าหน้าที่ฯธนาคารแจ้งว่าไม่มีมือถือลงทะเบียนฯไม่ได้ ทำให้ตนเองหมดสิทธิพอลงทะเบียนไม่ได้รู้สึกท้อใจ เพราะอยากได้เงินไปใช้ในครอบครัว ตอนนี้เงินติดตัวก็ไม่มี ข้าวก็ยังไม่ได้กินมาตั้งแต่เมื่อคืน จึงเดินไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
นายชาลี บอกอีกว่าแต่ก่อนตนทำงานเป็นพนักงานห้างฯที่กรุงเทพฯ แต่ประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาพิการเส้นเอ็นขาขวาขาด ทำให้เดินลำบากและทำงานหนักไม่ได้ จึงต้องออกจากงานอยู่บ้านได้ 5 ปีแล้ว อยู่เฝ้าสวนยางพาราให้ญาติกับภรรยา ตั้งใจมาลงทะเบียนคนละครึ่งเอาเงินไว้จ่ายในครอบครัว แต่ก็ไม่ได้เลยครับ
เบื้องต้นนายวีระพล สอบถามว่าเมื่อลงทะเบียนคนละครึ่งไม่ได้ เพราะไม่มีมือถือ ไม่เป็นไรเดี๋ยวตนจะช่วยจะมอบเงินให้ 2,000 บาท หรือจะเอามือถือใหม่เพื่อเอาไว้ลงทะเบียนคนละครึ่งรอบหน้า นายชาลีคิดอยู่นาน จึงตัดสินใจว่าจะเอาเงินสองพัน เพราะตอนนี้ไม่มีเงินติดตัว หรืออาจจะกลับบ้านไปถามภรรยาก่อนว่าจะเลือกเอาแบบไหน ซึ่งเห็นแล้วก็น่าสงสาร
นายวีระพล จึงบอกว่าเดี๋ยวจะเข้าไปดูสภาพความเป็นอยู่ที่บ้าน ไม่แน่จะมอบทั้งเงินสองพันและหาซื้อมือถือใหม่ให้เลย จากนั้นได้ไปจ้างรถสามล้อให้นายชาลีได้กลับบ้านและมอบเงินให้ติดต่ออีกจำนวนหนึ่ง โดยวันถัดไปนายวีระพลรักเสมอวงศ์ นายกเทศบาลเมืองบ้านดุงและนักข่าวจะได้เดินทางไปดูสภาพครอบครัวของนายชาลีว่าเป็นอย่างไรเหมาะที่ให้การช่วยเหลือหรือไม่อย่างไร
ขณะเดียวกันมีเหตุการณ์วุ่นๆหน้าธนาคารกรุงไทยสาขา อ.บ้านดุง เมื่อชาวบ้านพากันแห่มาต่อคิวลงทะเบียนตั้งแต่เช้าจนคิวยาวเหยียด แต่ก็มีชาวบ้านเป็นหญิง 2 คนพยายามลัดคิวมายืนด้านหน้า ทำให้ชาวบ้านไม่พอใจโวยลั่น “มาทีหลังมาลัดคิวหน้าอย่ามาหน้าด้านเอาเปรียบเพื่อนแบบนี้” พร้อมไล่ให้ไปอยู่ด้านหลัง จนมีรปภ.ของธนาคารมาขอร้องให้ไปต่อคิวและหญิง 2 คนทนเสียงด่าไม่ไหว ต้องยอมถอยไปต่อคิวด้านหลังทันที
Advertisement