สืบเนื่องมาจากเหตุสะเทือนขวัญ กรณีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้วัย 22 ปี ถูกทรมานจนเสียชีวิตในกัมพูชา หลังจากถูกเรียกค่าไถ่ และคาดว่าน่าจะเกี่ยวกับแก๊งสแกมเมอร์ จนสร้างความรู้สึกช็อd และโหมกระพือความเดือดดาลของประชาชนชาวเกาหลีใต้ เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
ย้อนไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา สื่อเกาหลีใต้ The Korea Herald มีรายงานว่า พบศพชายชาวเกาหลีใต้ ภายในอาคารที่เชื่อว่าเป็นแหล่งของแก๊งต้มตุ๋นชาวกัมพูชา โดยร่างห่อด้วยผ้าห่ม และถุงพลาสติก ถูกทิ้งในถังขยะ รวมกับร่างของผู้เสียชีวิตสัญชาติอื่นๆ สภาพใบหน้าบวมช้ำ บ่งชี้ว่าเขาอาจถูกทุบตีจนเสียชีวิต
เมื่อเร็วๆ นี้ สื่อเกาหลี Korea JoongAng Daily ได้เผยบทสัมภาษณ์ของเหยื่อชาวเกาหลีที่รอดชีวิตจากฐานสแกมเมอร์ในเขมร หลังจากทุกข์ทรมานจากขุมนรกแห่งนี้กว่า 61 วัน
ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2568 นาย ฮอ มิน-จอง (นามสมมติ) ชาวเกาหลีใต้วัย 40 กว่าปี เดินทางไปเล่นพนันที่กาสิโน ในเมืองสีหนุวิลล์ ก่อนที่จะถูกชายชาวจีนจับตัวไป และมีการเรียกค่าไถ่ราวๆ 1-3 แสนบาท พร้อมกับยึดทรัพย์สิน
ทั้งยังถูกทำร้ายร่างกายเป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะถูกขายต่อให้กับชายอีกคนที่ใช้นามสมมติว่า เม่น เป็นนายหน้าชาวเกาหลี-จีนที่เกี่ยวข้องกับการใช้บัญชีม้าในการหลอกลวง จนวันที่ 8 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาได้บุกเช้ามาตรวจค้น และจับตัวเขาไปพร้อมกับคนร้าย ทั้งยังจับไว้ในห้องขังเดียวกันห้องขังดังกล่าวนั้นราวกับขุมนรก เพราะมีขนาดเพียง 16 ฟุต แต่คุมขังคนกว่า 35 คน
นายฮอ อยู่ในนั้นราว 5 สัปดาห์ ก่อนที่คนร้ายที่ลักพาตัวเขามาได้จ่ายสินบนให้ ตำรวจ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อให้พักอยู่ในห้องแอร์ แม้แต่ฆาตรกรที่ฆ่าคนก็จ่ายสินบน 20,000 ดอลลาร์ จนได้รับอิสระ กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ได้รับความช่วยเหลือจาก ส.ส. พรรคประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ ซึ่งประสานงานช่วยเหลือชาวเกาหลีที่ติดอยู่ในกัมพูชา
ทวีคูณความร้อนแรงยิ่งไปขึ้นไปอีก KBS สื่อเกาหลีใต้แห่งแรกที่ได้ลงพื้นที่บุกเจาะฐานสแกมเมอร์รังใหญ่ ในประเทศกัมพูชา โดยในรายงานข่าวเผยให้เห็นทุกรายละเอียด ที่ราวกับคุกคุมขังนักโทษ เมื่อเข้าไปแล้ว คุณไม่มีทางหนีรอดออกมาได้
ผู้สื่อข่าวชาวเกาหลีจาก KBS รายงานว่า สถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่บนอุทยานแห่งชาติเขาโบโค ซึ่งเป็นพื้นที่สูงกว่าพื้นที่ประมาณ 1,000 เมตร และจากภาพมุมสูง พบว่า มีกลุ่มอาคารจำนวนมากตั้งเรียงกัน ซึ่งอัดแน่นจนเหมือนกระดานหมากรุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีโครงสร้างเหล็กล้อมรอบพื้นที่ มีการติดตั้งแผนกั้นเข้า-ออก และบริเวณทางเข้าออกของกลุ่มอาคารมีการติดตั้งไม้กั้น รวมถึงมีผู้สวมชุดสีดำพร้อมหมวกประจำการอยู่ตามจุดต่างๆ
ข้อมูลสถิติของรัฐบาลเกาหลีใต้ เผยว่า ตั้งแต่ต้นปีปี 2568 จนถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวและบังคับไปเป็นสแกมเมอร์ในกัมพูชารวมทั้งสิ้น 252 ราย ล่าสุดทางการกรุงโซล เชื่อว่ามีชาวเกาหลีใต้ประมาณ 1,000 คน ทำงานอยู่ในปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์ในกัมพูชา
สำหรับความเคลื่อนไหวของวันนี้ "คุณพัคซองจู" ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนแห่งชาติ ออกเดินทางไปกัมพูชา พร้อมกับ ทีมร่วมรับมือของรัฐบาล ซึ่งมี "คุณกิมจินอา" รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าทีมภารกิจของทีมร่วมรับมือ ภารกิจดังกล่าว ได้แก่
1. เร่งส่งตัวคนเกาหลีที่ถูกกักขังกลับประเทศ
2. ขยายการส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำสถานทูตและเจ้าหน้าที่ความร่วมมือไปกัมพูชา
Advertisement