วันที่ 13 ตุลาคม 2568 เมื่อเวลา 04.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองกำลังบูรพา โดยหน่วยเฉพาะกิจที่12(ฉก.12)ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่4(ฉก.ตชด.4)ได้สนธิกำลังร่วมออกลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชาด้านอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ตามแผนการป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังใช้โดรนตรวจจับความร้อนบินสำรวจพื้นที่แนวชายแดน ระหว่างหลักเขตแดนที่ 47–48 บ้านอ่างศิลา ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง ปรากฏว่า พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยจำนวนมาก กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในเขตแดนฝั่งไทย จึงจัดกำลังเข้าตรวจสอบและสามารถสกัดจับไว้ได้ทั้งหมด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา 37 คน แยกเป็นชาย 22 คน และหญิง 15 คน โดยทั้งหมดไม่มีเอกสารการอนุญาตเข้าประเทศ(พาสปอร์ตหรือวีซ่า)แต่อย่างใด
จากการสอบถามเบื้องต้นแรงงานกลุ่มดังกล่าวให้การว่า ได้เดินทางมาจากจังหวัดบันเตียเมียนเจย และเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา โดยมีนายหน้าชาวกัมพูชา เป็นผู้จัดหาและนำพามาส่งใกล้แนวชายแดนเพื่อรอจังหวะลักลอบข้ามเข้ามาฝั่งไทย โดยมีจุดหมายปลายทางจะไปทำงานรับจ้างทั่วไป และในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ชั้นในของประเทศไทย เช่นกรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสมุทรปราการ โดยจ่ายค่าดำเนินการให้นายหน้าคนละประมาณ 3,000–5,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวแรงงานทั้งหมดไปยังที่ทำการหน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่4 เพื่อทำบันทึกจับกุมและส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการคัดกรองโรคและเตรียมผลักดันกลับประเทศตามขั้นตอน
ทั้งนี้พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาด้านอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้วยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงกลางคืน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในพื้นที่ได้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและใช้เทคโนโลยีตรวจจับเช่นโดรนตรวจความร้อน กล้องวงจรปิด และหน่วยเฝ้าตรวจเคลื่อนที่เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
Advertisement