สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมาระอุอีกครั้ง หลังเครื่องบินรบ K-8 ของกองทัพเมียนมาทิ้งระเบิดใส่พื้นที่ควบคุมของกองกำลัง KNLA ใกล้ชายแดนพุน้ำร้อน อ.เมืองกาญจนบุรี ขณะหน่วยทหารไทยเร่งวางกำลังคุมเข้ม เฝ้าระวังไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัย
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เวลา 14.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินรบแบบ K-8 Jet Fighter ของกองทัพเมียนมา จำนวน 1 ลำ ได้บินเข้าโจมตีด้วยการทิ้งระเบิดขนาด 250 ปอนด์ จำนวน 2 ลูก ใส่พื้นที่ควบคุมของกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA พล.น้อยที่ 4 บริเวณบ้านทิกิ กิ่งอำเภอเมตตา จังหวัดทวาย ภาคตะนาวศรี ประเทศเมียนมา ห่างจากช่องทางพุน้ำร้อน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ประมาณ 1.9 กิโลเมตร ก่อนบินกลับฐานที่เมืองมะริดในเวลา 14.40 น.
เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมถึงความเสียหายต่อบ้านเรือนของชาวบ้านในฝั่งเมียนมาเพิ่มเติม แต่เหตุโจมตีดังกล่าวทำให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาประมาณ 300 คน จากบ้านทิกิ อพยพมาอยู่ใกล้แนวชายแดน ห่างจากช่องทางพุน้ำร้อนเพียงร้อยเมตร ขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดข้ามแดนเข้าสู่ฝั่งไทย
ด้านราษฎรไทยในพื้นที่บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองกาญจนบุรี ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีอาการตื่นตระหนกหรือได้รับผลกระทบ
พ.อ.ปิยะเณศร์ ภัทรศาศวัตวงษ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า พร้อมด้วยนายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี พ.อ.สรรเสริญ ไพรโสภา ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 14 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจจุดช่องทางพุน้ำร้อน เพื่อเตรียมแผนรองรับสถานการณ์ความไม่สงบ และจัดตั้งจุดตรวจ-จุดสกัดกั้นผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตามแผนความมั่นคง
หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า โดยกองร้อยทหารพรานที่ 1402 ยังได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้บาดเจ็บชาวเมียนมาบางราย พร้อมจัดกำลังลาดตระเวนควบคุมพื้นที่ป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย และเตรียมการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้หนีภัยร่วมกับฝ่ายปกครองและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่
ทั้งนี้ หน่วยทหารยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุความไม่สงบในฝั่งเมียนมาส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย
Advertisement