(4 ต.ค. 2568) ชาวบ้านที่อยู่ริมคลองวัดโคกสะแบง อย่าง นางหลง แก้วประสิทธิ์ อายุ 53 ปี เจ้าตัวเล่าย้อนให้ฟังว่าช่วงที่มีสงครามเขมรแดง ตอนนั้นตนเริ่มโตเป็นสาวพอดี จำได้ว่ามีเขมรสองฝั่งยิงกันแล้วใช้พื้นที่ประเทศไทยส่วนหนึ่งตรงบริเวณวัดป่าหนองเอี่ยนและวัดโคกสะแบงเป็นทางผ่านสนามรบกวนย่อมๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน เนื่องจากโซนนี้จะเป็นพื้นที่สามเหลี่ยม ที่ด้านซ้าย ขวาและด้านหน้าเป็นประเทศกัมพูชา ทำให้คนไทยต้องหนีเข้าไปหลบในหลุมบังเกอร์ ส่วนคนกัมพูชาที่หนีตายเข้ามาพวกตนก็ต้องพาไปอยู่ศูนย์อพยพ
แต่ปัจจุบันเรื่องปัญหาชายแดนจากความขัดแย้งของไทยและกัมพูชา ยอมรับว่าการปิดด่านทำให้ตัวเองได้รับผลกระทบเหมือนกัน เนื่องจากทำงานอยู่ในบริษัทที่มีการขนส่งอาหารเข้าออกระหว่าง 2 ประเทศ แต่ก็ทนได้
ส่วนเรื่องที่จะมีการสร้างรั้วกั้นชายแดนนั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลักๆ จะได้ป้องกันการลักลอบข้ามไปมาแบบผิดกฎหมาย แต่ก็อยากให้สร้างรั้วเป็นปูนสูงๆ เหมือนกับประเทศเวียดนามไปเลยก็จะดีมาก รวมถึงติดกล้องวงจรปิดด้วย จะได้ทั้งสวยและจบทีเดียว ทั้งนี้ที่สร้างรั้วกั้น ไม่ได้หมายความว่าคนไทยจะรังเกียจคนกัมพูชาแต่ทุกอย่างมันเพื่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อปัญหาจบลงก็ยังคงสามารถไปมาหาสู่กันได้โดยช่องทางด่านปกติ
Advertisement