วันที่ 1 ต.ค. 68 นางวันดี (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ชาวตำบลหารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน หลังบุตรสาว น้องเฟิร์น (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ถูกครูหญิงฝ่ายปกครองเสนอเงิน 1,000 บาท ให้ถอดเครื่องแบบออก และย้ายไปเรียนที่อื่น อ้างเหตุทะเลาะ กับเพื่อนในห้องเรียน
นางวันดี แม่น้องเฟิร์น เล่าว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ย. เวลาประมาณเที่ยง ได้มีปากเสียงกับเพื่อนนักเรียนหญิง เนื่องจากเข้าไปพูดแทรก และเข้าข้างอีกคน ทำให้ทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ ก่อนเพื่อนๆ จะเข้าห้าม และแยกย้าย วันถัดมาเธอได้ชวนเพื่อนรุ่นพี่หญิงไปพูดคุยตกลงทำความเข้าใจกับคู่กรณี แต่กลับถูกอีกฝ่ายโทรแจ้งผู้ปกครอง อ้างว่าจะถูกทำร้ายซ้ำ จึงรายงานไปถึงครูฝ่ายปกครอง
เมื่อครูเรียกทั้งสองฝ่ายมาเจรจา ครูฝ่ายปกครองกลับต่อว่าน้องเฟิร์น โดยไม่ฟังคำชี้แจง พร้อมแสดงท่าทีเข้าข้างคู่กรณี จากนั้นได้เสนอเงิน 1,000 บาท เพื่อให้ลาออกและไปเรียนที่โรงเรียนอื่น ทั้งที่น้องเฟิร์นเพิ่งย้ายมาจาก จ.กระบี่ เพื่อมาอยู่กับแม่และเรียนต่อในโรงเรียนแห่งนี้ได้เพียงปีเดียว
นางวันดี กล่าวอีกว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากครูชายให้ช่วยอบรมลูก แต่ไม่ได้รับการอธิบายรายละเอียด จึงมาทราบจากปากลูกสาวภายหลังยื นยันว่าลูกสาวเป็นคนตรง หากไม่ผิดก็มักอธิบาย หรือโต้แย้ง แต่ไม่ถึงขั้นสมควรถูกบีบให้ย้ายออก
“เหตุทะเลาะกันครั้งแรกในโรงเรียน ไม่ควรถูกตัดอนาคตด้วยการใช้เงินเพียงพันเดียวมาจ้างเด็กให้ลาออก” นางวันดี กล่าว
ด้านคุณยายของน้องเฟิร์น เล่าว่า หลานสาวเป็นคนไม่ยอมคน หากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะเถียง การที่ครูจ้าง 1,000 บาท ให้ลาออกหาโรงเรียนใหม่ คาดว่าน่าจะเกิดจากหลานสาวเถียง เกิดความไม่พอใจให้กับครู อย่างไรก็ตามขณะนี้ฝ่ายผู้บริหารโรงเรียนยังไม่รับทราบเรื่องโดยตรง และจะขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการต่อไป
Advertisement