ไปทำงานต่างประเทศอย่างปลอดภัย 5 วิธีถูกกฎหมายที่ควรรู้

การเดินทางไป “ทำงานต่างประเทศ” เป็นหนึ่งในทางเลือกของ “แรงงานไทย” ที่ต้องการสร้างรายได้และประสบการณ์ใหม่ๆ แต่ในปัจจุบันช่องทางการหางานผ่านสื่อออนไลน์และเครือข่ายสังคมต่างๆ ก็มีทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้หางาน

 

โดย “กระทรวงแรงงาน” ได้ออกมาเตือนให้ผู้ที่สนใจไปทำงานต่างประเทศเพิ่มความระมัดระวัง เนื่องจากมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้เพจและโซเชียลต่างๆ โฆษณาชักชวน โดยอ้างว่าเป็นงานรายได้สูง สวัสดิการดี แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับถูกลอยแพ สูญเสียเงินทอง หรืออาจเสี่ยงต่อการถูกบังคับใช้แรงงาน รวมถึงตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ได้

 

5 วิธีถูกกฎหมายในการไปทำงานต่างประเทศ

 

1.กรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง : วิธีนี้คนหางานจะไม่เสียค่าบริการ แต่มีค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพ ค่าวีซ่า ค่าภาษีสนามบิน เป็นต้น

2.บริษัทจัดหางานจัดส่ง : โดยต้องเป็นบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้อง คนหางานจะเสียค่าใช้จ่ายไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

3.นายจ้างพาลูกจ้างไปทำงาน : เป็นวิธีที่นายจ้างมีบริษัทในเครืออยู่ต่างประเทศ หรือประมูลงานในต่างประเทศได้ พาลูกจ้างไปทำงานโดยได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางาน

4.การแจ้งการเดินทางด้วยตนเอง : ลูกจ้างสามารถแจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเองตามขั้นตอนที่กรมการจัดหางานกำหนด

5.นายจ้างส่งลูกจ้างไปฝึกงานต่างประเทศ : เปิดโอกาสให้นายจ้างส่งพนักงานไปฝึกทักษะเพิ่มประสบการณ์ในต่างประเทศ โดยต้องดำเนินการตามระเบียบที่กำหนด

 

สถิติแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ

 

ข้อมูลจาก “กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน” ปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – กรกฎาคม 2568) พบว่า

 

• จำนวนคนหางานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ จำแนกตาม 5 วิธีเดินทาง มีจำนวน 55,604 คน

• ในส่วนของแจ้งเดินทางกลับไปทำงานในต่างประเทศ มีจำนวน 35,442 คน

 

ประเทศที่มีแรงงานไทยไปมากที่สุด

 

ประเทศจึงกลายเป็นจุดหมายยอดนิยมของแรงงานไทยมากที่สุด ได้แก่

 

ไต้หวัน : 16,009 คน

อิสราเอล : 12,558 คน

เกาหลีใต้ : 5,558 คน

ญี่ปุ่น : 4,881 คน

ฟินแลนด์ : 2,874 คน

 

นอกจากนี้ “ธนาคารแห่งประเทศไทย” ประมาณการรายได้ที่คนหางานในต่างประเทศส่งกลับไทย ปีงบประมาณ 2568 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 จนถึงกรกฎาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 236,796 ล้านบาท สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของแรงงานไทยต่อเศรษฐกิจทั้งในครัวเรือนและระดับประเทศ

 

ที่มา : กระทรวงแรงงาน