ชาวบ้านกรวดเผย ถ้าตอนนั้นผลักดันเขมรกลับไม่ได้คงเป็นเหมือนหนองจาน
ชาวบ้านบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เผยกว่าจะผลักดันเขมรกลับประเทศได้ยากพอสมควร ถ้าตอนนั้นผลักดันกลับไม่ได้คงเป็นเหมือนบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันที่ 26 ส.ค.68 ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในหมู่บ้านตามแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเล่าย้อนอดีตเมื่อครั้งที่เกิดสงครามระหว่างกองทัพเวียดนามกับทหารเขมรแดงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2526 -2528 ซึ่งสมัยนั้นได้มีเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดมชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จนคนไทยหลายครอบครัวต้องพากันหนีตาย ส่วนหนึ่งก็มีประชาชนชาวกัมพูชาหลายพันคนอพยพเข้ามาขอลี้ภัยในประเทศไทย ซึ่งทางภาครัฐของไทยก็ได้ช่วยเหลือจัดสถานการหมู่บ้านตามแนวชายแดนให้ชาวกัมพูชาได้ลี้ภัยดูแลทั้งข้าวน้ำเป็นอย่างดี จนบางคนไม่อยากจะกลับประเทศตัวเอง แต่โชคดีที่ตอนนั้นทางการไทยได้พยายามผลักดันให้กลับประเทศซึ่งก็ยากพอสมควร เพราะถ้าผลักดันกลับไม่ได้ หมู่บ้านชายแดนในอ.บ้านกรวด ก็อาจจะตกอยู่ในสถานการณ์เหมือนกับบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่เขมรเข้ามาครอบครองทำกินและอ้างสิทธิ์เหมือนที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ชาวบ้านหนองจานได้ที่ดินคืน
นางประภาดา บุญเจริญ อายุ 57 ปี ชาว ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด เล่าย้อนอดีตให้ฟังว่าช่วงระหว่างปี พ.ศ.2526-2528 ช่วงยุคสงครามเขมรแดง ตนเองอายุประมาณ 15-16 ปี ก็ได้มีคนเขมรหนีภัยสงครามอพยพเข้ามาอาศัยหลบภัยสงคราม มาอยู่แถวบ้านสายโท 4 ใต้ ไปจนถึงสายโท 8 ใต้ ต.จันทบเพชร อ.บ้านกรวด ที่ฝ่ายไทยได้จัดสร้างเป็นศูนย์อพยพจัดไว้ให้ และตนก็ได้ไปกับพ่อแม่ขายก๋วยเตี๋ยวให้เขมรที่อพยพ พอเหตุการณ์เริ่มสงบ ทางการไทยจึงได้ผลักดันให้เขมรที่อพยพมาขอลี้ภัยตามชายแดนบ้านกรวดให้ไปรวมตัวกันอยู่ที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนจะทำการผลักดันกลับคืนประเทศกัมพูชา
ซึ่งในช่วงนั้นยอมรับว่าการผลักดันเขมร ที่มาอาศัยอยู่ยังศูนย์อพยพที่ชายแดน อ.บ้านกรวด ก็มีทั้งง่ายและยาก แต่สุดท้ายก็ผลักดันกลับทุกคน เพราะถ้ายังอยู่คงจะเกิดปัญหาเหมือนกับบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
ด้านนายสุบิน อ่อนเรือง อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตลาดนิคมปราสาท อ.บ้านกรวด เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยที่เกิดสงครามเวียดนามกับเขมรแดง แล้วคนเขมรหนีสงครามอพยพมาอยู่ในแผ่นดินประเทศไทย ไล่เรียงตั้งแต่บ้านสายโท 4 ใต้ ไปถึงสายโท 8 ใต้ ต.จันทบเพชร ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยก็มีการตั้งศูนย์อพยพ เพื่อเป็นพื้นที่หลักในการรองรับผู้ลี้ภัยชาวเขมร ซึ่งตอนนั้นมีจำนวนหลายพันคน ทางฝ่ายไทยก็ดูแลเป็นอย่างดี ทั้งสร้างที่พักอาศัย อาหารการกิน และการช่วยเหลือในด้านต่างๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ก็ได้ผลักดันให้ชาวเขมรกลับประเทศ แต่กว่าจะผลักดันให้เดินทางกลับประเทศได้ก็ยากพอสมควร ต้องใช้เวลาขับไล่กันนานกว่าจะไล่ให้ออกจากพื้นที่ศูนย์อพยพไปได้ เพราะถ้าผลักดันกลับไม่ได้ตอนนี้ชายแดน อ.บ้านกรวด ก็อาจจะไม่ต่างจากบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว
Advertisement
