Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ปวดฉี่ไม่ควรอั้นโดยเฉพาะผู้หญิง อั้นฉี่บ่อยๆ เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?

ปวดฉี่ไม่ควรอั้นโดยเฉพาะผู้หญิง อั้นฉี่บ่อยๆ เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?

25 ส.ค. 68
12:19 น.
แชร์

ปวดฉี่ อั้นฉี่ เมื่อการกลั้นปัสสาวะอาจไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างที่คิดโดยเฉพาะ "ผู้หญิง" เพราะท่อปัสสาวะสั้น เชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่าย เสี่ยงติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ

ทุกคนคงเคยมีประสบการณ์ "ปวดฉี่ แต่หาห้องน้ำไม่ได้" บางครั้งอยู่บนถนน รถติดอยู่หลายชั่วโมง บางทีกำลังนั่งประชุม หรือแม้แต่ในห้องเรียน การกลั้นปัสสาวะในช่วงเวลาสั้น ๆ อาจดูเหมือนไม่มีผลเสียอะไร แต่แท้จริงแล้วการเพิกเฉยต่อสัญญาณของร่างกายอาจสร้างผลกระทบต่อสุขภาพได้มากกว่าที่คิด เพราะ "ความปวด" เป็นกลไกธรรมชาติที่ร่างกายใช้เตือนว่าถึงเวลาที่ต้องขับของเสียออก หากเพิกเฉยซ้ำ ๆ อาจเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังและความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะได้

วงจรของการปวดปัสสาวะเกิดขึ้นได้อย่างไร

ปัสสาวะเกิดจากการที่ไตกรองของเสียและน้ำส่วนเกินออกจากเลือด ส่งผ่านท่อไตลงสู่กระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีความจุเฉลี่ยประมาณ 400–600 มิลลิลิตร เมื่อปัสสาวะเต็มถึงระดับหนึ่ง เซลล์ประสาทในผนังกระเพาะปัสสาวะจะส่งสัญญาณไปยังสมอง ทำให้รู้สึกอยากถ่ายปัสสาวะ ปกติแล้วเราจะเริ่มรู้สึกปวดเมื่อมีปริมาณปัสสาวะประมาณ 150–200 มิลลิลิตร และเมื่อถึง 400–500 มิลลิลิตร สมองจะสั่งการอย่างแรงว่าควรหาห้องน้ำทันที หากเราฝืนกลั้น กระเพาะปัสสาวะจะขยายตัวเกินปกติ ทำให้กล้ามเนื้อบีบรัดอ่อนแรงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

เหตุผลที่หลายคนชอบกลั้นฉี่ – ไลฟ์สไตล์ & สังคม

ในชีวิตจริง หลายคนเลือกที่จะ "อั้นฉี่" ด้วยเหตุผลทางสังคมและความสะดวก เช่น

• การเดินทาง บนถนนที่รถติดยาวนาน

• การทำงาน ประชุมต่อเนื่องหรือทำงานที่ไม่สะดวกเดินออกจากโต๊ะ

• โรงเรียน/มหาวิทยาลัย นักเรียนบางคนรู้สึกอายที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย

• ผู้หญิง บางคนเลือกกลั้นเพราะกังวลเรื่องสุขอนามัยของห้องน้ำสาธารณะ

เหตุผลเหล่านี้ทำให้พฤติกรรมการกลั้นฉี่กลายเป็นเรื่อง "ปกติ" ในหลายคน แต่เมื่อทำซ้ำ ๆ นาน ๆ ร่างกายอาจต้องรับผลเสียโดยไม่รู้ตัว

ร่างกายส่งสัญญาณ ทำไมถึงปวดจนทนไม่ไหว

ความปวดปัสสาวะไม่ใช่เพียง "ความรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ" แต่เป็นสัญญาณชีวภาพที่ซับซ้อน ระบบประสาทรับความรู้สึกจากผนังกระเพาะปัสสาวะจะส่งไปยังไขสันหลังและสมอง สมองตีความว่า "เจ็บ/แน่น" เพื่อบังคับให้เราขับปัสสาวะออก ความรู้สึกนี้ไม่ต่างจากการที่ร่างกายเตือนให้หายใจเมื่อออกซิเจนต่ำ หรือบังคับให้ดื่มน้ำเมื่อขาดน้ำ หากฝืนไม่ทำตามสัญญาณบ่อย ๆ ระบบประสาทอาจเกิดความผิดปกติ กลายเป็นภาวะปัสสาวะเล็ด ควบคุมไม่ได้ หรือกระเพาะปัสสาวะบีบตัวผิดจังหวะ

กลั้นฉี่บ่อย ๆ มีผลเสียอะไรบ้าง

• กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะอ่อนแรง เพราะถูกยืดบ่อยเกินไป

• ปัสสาวะคั่งค้าง ทำให้ของเสียหมักหมมและกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อ

เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) โดยเฉพาะผู้หญิง เนื่องจากท่อปัสสาวะสั้นและเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่าย

• เกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะ จากการตกผลึกของเกลือและแร่ธาตุที่ไม่ได้ถูกขับออก

• ทำให้ไตทำงานหนัก เมื่อปัสสาวะย้อนกลับจากกระเพาะปัสสาวะสู่ไต อาจนำไปสู่ภาวะไตอักเสบหรือไตวายได้

โรคที่อาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะ

• กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis): อาการปัสสาวะแสบขัด ปวดบ่อย ปัสสาวะมีกลิ่น

• กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis): เชื้อโรคลุกลามจากกระเพาะปัสสาวะขึ้นไปยังไต มีไข้ หนาวสั่น ปวดหลัง

• นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ: เกิดจากตะกอนแร่ธาตุที่ตกค้าง

• ภาวะปัสสาวะเล็ด/กลั้นไม่อยู่: จากกล้ามเนื้ออ่อนแรง

• ไตวายเรื้อรัง: ในกรณีที่มีการติดเชื้อซ้ำ ๆ หรือปัสสาวะย้อนกลับไปทำลายเนื้อไต

ใครบ้างที่เสี่ยงอันตรายมากกว่าคนทั่วไป

• ผู้หญิง เสี่ยง UTI มากกว่าผู้ชาย

• หญิงตั้งครรภ์ มดลูกกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ

• ผู้สูงอายุ กล้ามเนื้ออ่อนแรงและประสาทควบคุมการขับถ่ายเสื่อม

• ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งมีน้ำตาลในปัสสาวะสูง เอื้อต่อการเจริญของเชื้อโรค

• เด็ก ที่ยังควบคุมการขับถ่ายได้ไม่สมบูรณ์

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกลั้นฉี่

• "กลั้นฉี่เป็นการฝึกกล้ามเนื้อ" ความจริงคือกล้ามเนื้ออ่อนแรงลง

• "กลั้นแป๊บเดียวไม่เป็นไร" ถ้าบ่อยครั้งก็สะสมความเสี่ยง

• "ปัสสาวะใส แสดงว่าไตแข็งแรง ไม่เป็นโรค" จริงแล้ว ไม่เสมอไป การติดเชื้อบางครั้งไม่ทำให้สีปัสสาวะเปลี่ยน

เมื่อไหร่ควรรีบไปหาหมอ

• ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อยแต่ได้น้อย

• ปัสสาวะเป็นเลือดหรือมีกลิ่นแรง

• ปวดเอว/หลัง ร่วมกับมีไข้

• ปัสสาวะเล็ดบ่อย ๆ จนกระทบชีวิตประจำวัน

อาการเหล่านี้บ่งชี้ถึงโรคในระบบทางเดินปัสสาวะที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้

เทคนิคดูแลสุขภาพกระเพาะปัสสาวะในชีวิตประจำวัน

• ดื่มน้ำสะอาดเพียงพอวันละ 6–8 แก้ว

• ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมหรือคาเฟอีนมากเกินไป เพราะกระตุ้นให้ปวดฉี่บ่อย

• ฝึกเข้าห้องน้ำให้เป็นเวลา ไม่กลั้นบ่อย

• สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้น

• สำหรับผู้หญิง ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ท่อปัสสาวะ

การปวดฉี่เป็นสัญญาณที่ร่างกายบอกให้เราขับของเสียออก การกลั้นฉี่ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แต่เป็นพฤติกรรมที่สะสมความเสี่ยงต่อสุขภาพ ทั้งโรคติดเชื้อ กระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่ว และแม้แต่ภาวะไตวายเรื้อรัง แม้บางครั้งเราจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ควรตระหนักว่าการตอบสนองต่อความต้องการทางธรรมชาติของร่างกายคือการป้องกันโรคที่ดีที่สุด

รวบรวมข้อมูลจาก: คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล / คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล

Advertisement

แชร์
ปวดฉี่ไม่ควรอั้นโดยเฉพาะผู้หญิง อั้นฉี่บ่อยๆ เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?