ข่าวการแอบอ้างเป็นแพทย์หรือใช้เอกสารปลอม เพื่อให้คนไข้หลงเชื่อเข้ารับการรักษา ซื้อยา หรือใช้บริการทางการแพทย์โดยผิดกฎหมายเกิดขึ้นบ่อยครั้ง การกระทำเช่นนี้ไม่เพียงก่อความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่ยังเสี่ยงต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชน
ดังนั้นการรู้เท่าทันและตรวจสอบให้แน่ชัดว่าแพทย์ที่พบเจอเป็น “หมอจริง” หรือ “หมอปลอม” จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากไม่ระวังอาจตกเป็นเหยื่อและได้รับบริการทางการแพทย์ที่ไม่ปลอดภัย
วิธีตรวจสอบ “หมอจริงหรือปลอม”
เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้างเป็นแพทย์ “แพทยสภา” มีระบบช่วยให้ตรวจสอบความถูกต้องของแพทย์และเอกสารทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้
โดยประชาชนสามารถตรวจสอบความถูกต้องของใบรับรองแพทย์หรือใบความเห็นแพทย์ ผ่านเว็บไซต์แพทยสภา https://checkmd.tmc.or.th/ ตลอด 24 ชั่วโมง
ขั้นตอนเช็กหมอจริงจาก “แพทยสภา”
• กรอก ชื่อ-นามสกุล และ เลขที่ใบอนุญาต ของแพทย์ในระบบตรวจสอบของแพทยสภา
• หากข้อมูลถูกต้อง ระบบจะแสดงผลยืนยัน พร้อมรายละเอียดว่าแพทย์ผู้นั้นยังมีชีวิตอยู่ ไม่ถูกพักใช้ใบอนุญาต และมีความเชี่ยวชาญด้านใด
• หากเป็นเอกสารปลอมจะไม่พบชื่อในระบบ หรือพบชื่อ แต่เลขที่ใบอนุญาตไม่ตรงกัน ซึ่งมักเป็นเลขที่ตั้งขึ้นเองโดยคลินิกเถื่อน
อย่าตกเป็นเหยื่อ “หมอปลอม”
เลขใบรับรองปลอม – ใบรับรองแพทย์เถื่อนมักตั้งเลขเอง ให้ระวังว่าอาจได้มาจากคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาต
ชื่อ-นามสกุลเปลี่ยน – แพทย์ที่เปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลต้องแจ้งแพทยสภาเพื่ออัปเดตข้อมูล มิฉะนั้นอาจตรวจไม่พบและถูกเข้าใจผิดว่าเป็นหมอปลอม
แพทย์เสียชีวิต – แพทย์ที่ถึงแก่กรรมแล้วจะแสดงสถานะในระบบหลังตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร์และผ่านการยืนยันจากที่ประชุมแพทยสภา หากพบการออกเอกสารจากชื่อดังกล่าวให้สงสัยว่าเป็นของปลอม
ตรวจสอบก่อนใช้บริการ – การตรวจสอบก่อนใช้บริการเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อความปลอดภัยของตนเองและป้องกันการตกเป็นเหยื่อของผู้แอบอ้าง
แอบอ้างแพทย์ “ผิดกฎหมาย”
เพื่อป้องกันการแอบอ้างและการใช้เอกสารปลอมในการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ กฎหมายได้กำหนดข้อบังคับชัดเจนไว้ในพระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ซึ่งบทบัญญัติสำคัญในมาตรา 27, 28 และ 44 มีดังนี้
• ห้ามใช้คำหรืออักษรย่อที่สื่อถึงแพทย์
ห้ามใช้คำว่า แพทย์ นายแพทย์ แพทย์หญิง หรือนายแพทย์หญิง หรือใช้อักษรย่อของคำดังกล่าว หรือใช้คำแสดงวุฒิการศึกษาทางแพทยศาสตร์ หรือใช้อักษรย่อของวุฒิดังกล่าวประกอบกับชื่อหรือนามสกุลของตน หรือใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่น เข้าใจว่าตนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
ทั้งนี้รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน เว้นแต่ผู้ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรในวิชาแพทยศาสตร์
• ห้ามแอบอ้างความชำนาญทางการแพทย์
ห้ามใช้คำหรือข้อความที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ทั้งนี้รวมถึงการใช้ จ้าง วาน หรือยินยอมให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวให้แก่ตน
เว้นแต่ผู้ได้รับวุฒิบัตรหรือหนังสืออนุมัติ เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขานั้นๆ จากแพทยสภาหรือที่แพทยสภารับรองหรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้มีคุณสมบัติตามที่กำหนดในข้อบังคับแพทยสภา
• ฝ่าฝืนวิชาชีพเวชกรรมมีโทษ
หากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 27 หรือมาตรา 28 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การแอบอ้างเป็นแพทย์ไม่เพียงแต่ผิดกฎหมาย แต่ยังอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของผู้ป่วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาควรตรวจสอบความถูกต้องของใบประกอบวิชาชีพผ่านเว็บไซต์แพทยสภา เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับการดูแลจาก “หมอจริง ไม่ใช่ หมอปลอม”
ที่มา : พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 , แพทยสภา
Advertisement