จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เข้าไปเที่ยวตัวปราสาทตาควาย ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เกิดข้อสงสัยตู้รับบริจาคของประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ภายในตัวปราสาทตาควาย และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไม่รู้ต่างพากันหยอดเงินบริจาคลงตู้รับกันเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน
จากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ทหารไทย ทราบว่ากุญแจล็อกตู้บริจาคทหารกัมพูชาเป็นคนถือ และนำเงินไป ซึ่งตู้ดังกล่าวถูกตั้งมานานหลายปีแล้ว พูดยากเพราะเขาดื้อมาก ด้านนักท่องเที่ยวชาวไทย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำตู้บริจาคของชาวกัมพูชาออกไปจากพื้นที่ปราสาทตาควาย เพระที่ผ่านมาชาวไทยที่เข้ามาท่องเที่ยวต่างตัวปราสาทพากันนำเงินหยอดลงตู้รับบริจาค เข้าใจว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของไทยและเป็นปราสาทของไทย และจะนำเงินไปบูรณะโบราณสถานปราสาทตาควาย ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการเข้าใจผิดมาโดยตลอด
ล่าสุดวันนี้ (21 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ปราสาทตาควาย พบว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวกัมพูชา ต่างเดินทางเข้ามาเที่ยวชมตัวปราสาทตาควายกันอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มากนัก โดยนักท่องเที่ยวไทยที่มาต่างนำสิ่งของมามอบเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยอยู่ที่ตัวปราสาทตาควายกันอย่างไม่ขาดสาย
ส่วนตู้บริจาคที่เป็นข้อสงสัย พบว่ายังไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปไหน ยังคงตั้งไว้อยู่ที่เดิมภายในตัวปราสาท (เป็นตู้ไม้)และมีชาวไทยบางคนที่ไม่รู้ก็หยอดเงินทำบุญลงในตู้บ้าง ขณะที่ทหารไทยที่ดูแลอำนวยความสะดวกอยู่บริเวณปราสาทก็ได้มีการแจ้งให้ทราบเรื่องของตู้จาคและไม่ให้หยอดเงินทำบุญ
โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรี บอกว่า มาเที่ยวปราสาทตาควายครั้งแรก พร้อมทั้งได้นำพืชผักผลไม้มามอบให้ทหารเพื่อเป็นกำลังด้วย และไม่รู้ว่าตู้บริจาคที่ตั้งอยู่นี้เป็นของทางกัมพูชา คิดว่าของไทย ตอนแรกก็จะหยอดเงินบริจาคทำบุญลงไปเหมือนกัน แต่ทาง จนท.ทหาร แจ้งให้ทราบก่อนเลยไม่ได้หยอด อยากจะบอกคนไทยที่เข้ามาเที่ยวปราสาทตาควาย ไม่ต้องหยอดเงินทำบุญลงในตู้นี้ ให้ไปหยอดตู้ตรงทางขึ้นตัวปราสาทฝั่งไทยแทน ส่วนตู้ที่อยู่ตรงนี้ควรจะให้ทางกัมพูชานำออกไปไว้ยังทางขึ้นฝั่งของตัวเอง
จากการสอบถามผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้าเวรหน้าทางขึ้นปราสาท ทราบว่า ได้มีการแนะนำนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปชมตัวปราสาทตาควาย ถ้าจะทำบุญให้หยอดตู้บริจาคที่อยู่ข้างบันไดทางขึ้นฝั่งไทย แต่ที่อยู่ในตัวปราสาทจะเป็นของฝั่งกัมพูชาที่นำมาตั้งไว้ เงินที่หยอดทำบุญก็จะตกเป็นของทางกัมพูชา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารไทย ในตัวปราสาทก็ได้มีการแจ้งให้คนไทยที่เข้าไปเที่ยวให้ทราบเรื่องตู้บริจาค
ขณะที่คนไทยที่เข้ามาเที่ยวและทราบข่าวตู้บริจาค หลายคนต่างบอกว่า ให้ทางกัมพูชายกตู้ออกไปจากตัวปราสาท ไปตั้งที่ฝั่งของประเทศตัวเอง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลมาว่า ตู้บริจาคดังกล่าวทางทหารฝั่งกัมพูชา ได้มีการนำมาตั้งไว้นานแล้ว และฝั่งกัมพูชาเป็นผู้ถือกุญแจไว้เอง เมื่อเงินในตู้เต็มก็จะไขกุญแจเปิดตู้นำเงินออกไปเป็นของกัมพูชา เคยมีการพูดคุยเรื่องนี้แต่ทางกัมพูชาจะเป็นคนที่ดื้อมึนมาก และหลังมีการนำเสนอข่าวออกไป ทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฝ่ายไทยจะมีการพูดคุยเจรจากับทาง จนท.ที่ฝั่งกัมพูชาในเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติและแก้ปัญหาอย่างเป็นจริงเป็นจังร่วมกันต่อไป
Advertisement