จากกรณีที่มี ชาวกัมพูชาถือป้ายเคลมพยัญชนะไทยทั้ง 44 ตัว ครบทุกตัวอักษร ซึ่งถูกจัดเตรียมมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ระหว่างท่องเที่ยว ปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควายนั้น
ต่อมาวันที่ 21 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกโซเชียลได้แห่แชร์เคลิปคำบรรยายของนาย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์
โดยนายชาญวิทย์ บรรยายว่า จารึกปัลลวะ คือ ต้นแบบของตัวอักษร ซึ่งจะกลายเป็นต้นแบบตัวอักษร ในพม่า มอญ ไทย เขมร ลาว ไล่ลงไปจนกระทั่งถึง ตัวอักษรในชวา บาหลี รวมถึงเวียดนาม ต้นกำเนิดมาจากปัลลวะ คนกลุ่มนี้เรียกตัวเองว่าทมิฬ ปัลลวะเป็นชื่อราชวงศ์ของคนทมิฬ ฉะนั้นตนจะต่อต้านการเรียกพฤษภาทมิฬ เพราะไม่เกี่ยวกับชาวทมิฬ แต่เป็นเรื่องคนไทยฆ่ากันตายในถนนราชดำเนิน
ตัวอักษรเป็นปัลลวะ แต่ตัวภาษาเป็นสันสกฤต ส่วนสันสกฤตไม่มีตัวอักษรเช่นเดียวกับบาลีก็ไม่มีตัวอักษร ตัวอักษรของปัลลวะ เมื่อมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลายเป็นต้นกำเนิดของอักษรทั้งหมด ดังนั้นทมิฬ เป็นอารยะให้ตัวอักษรแก่ จาม แขมร์ ขอม ซึ่งไทย ลาว รับมาต่อ, เป็นต้นกำเนิดอักษรมอญ กลายไปเป็นอักษรพม่า ในปัจจุบัน แม้ตำรากระทรวงศึกษาไทยจะบอกว่าพ่อขุนรามคำแหงเป็นคนแต่งตัวอักษรไทย แต่จริงๆ ใช้เวลาเป็นร้อยเป็นพันปีกว่าจะมีตัวอักษร อยู่ที่ขั้นของการพัฒนา แปลว่าจามพัฒนาเร็วมาก แต่ตอนนี้ก็สลายไปกลายเป็นชนกลุ่มน้อย และเปลี่ยนศาสนาไปแล้ว
ฉะนั้น จุดกำเนิดอารยะของพวกเรามาจากทมิฬ ซึ่งเราไปบอกว่าพวกเขาดำมืดอำมหิต อันเป็นวิธีการตีความแบบสิงหล
คนไทยนับถือพุทธศาสนาที่รับมาจากศรีลังกา เป็นการรับพุทธศาสนามาแบบ “มือสอง” เราไม่ได้เอามาจากพุทธคยา หรือต้นกำเนิดพระพุทธเจ้า ฉะนั้น อะไรที่อยู่ในภาษา ในคำพูด ในไวยกรณ์ เช่นคำว่า ทมิฬ เราแปลว่าดำ มืด อำมหิต แต่ความจริง ทมิฬเป็นชนชาติหนึ่งที่อยู่ในอินเดียใต้และเป็น “อริ” กับสิงหลในศรีลังกานับพันปี เพราะฉะนั้น เวลาเรารับศาสนามาจากสิงหล เราก็รับอคติมาจากศรีลังกา
ความจริง ทมิฬ คือคนชนชาติหนึ่ง นี่เป็นเรื่องประวัติศาสตร์และลัทธิความเชื่อ
Advertisement