“สมณศักดิ์” คือยศหรือบรรดาศักดิ์ที่พระภิกษุได้รับพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมพระภิกษุผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ ให้ดำรงตนอยู่ในสมณเพศอย่างมั่นคง เป็นกำลังสำคัญในการสืบสานพระพุทธศาสนา และเป็นหลักในการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 คำว่า “สมณศักดิ์” หมายถึงยศของพระสงฆ์ที่ได้รับพระราชทาน ซึ่งแต่ละชั้นจะมีพัดยศประจำตำแหน่งเป็นเครื่องหมายกำหนดฐานะและลำดับขั้น พระภิกษุที่ได้รับสมณศักดิ์มักจะได้รับมอบหมายภารกิจสำคัญควบคู่กันไป เช่น การปกครองหมู่สงฆ์ การเผยแผ่ธรรมะ การดูแลการศึกษาพระปริยัติธรรม หรือการบริหารกิจการของคณะสงฆ์ในระดับต่าง ๆ
ลำดับชั้นของสมณศักดิ์ในประเทศไทย
สมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย แบ่งออกเป็นหลายระดับ เรียงลำดับได้ดังนี้
ชั้น 1 สกลมหาสังฆปรินายก เป็นตำแหน่งสังฆราช
สมเด็จสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
ชั้น 2 มหาสังฆนายก เจ้าคณะใหญ่ ชั้นสุพรรณบัตร
สมเด็จพระราชาคณะ มี 4 ตำแหน่ง คือ พระพุทธโฆษาจารย์ พระวันรัต พระพุทธาจารย์ และพระมหาวีรวงศ์ เป็นต้น
ชั้น 3 พระราชาคณะชั้นธรรม
มี 2 อันดับ คือ 1.พระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัตร และ 2.พระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นสัญญาบัตร
ชั้น 4 พระราชาคณะชั้นธรรม
มีราชทินนามว่า "ธรรม" นำหน้านาม เช่น พระธรรมปิฏก พระธรรมกิตติโสภณ และพระธรรมวิสุทธาจารย์ เป็นต้น
ชั้น 5 พระราชาคณะชั้นเทพ
มีราชทินนามว่า "เทพ" นำหน้านาม เช่น พระเทพวิสุทธิโสภณ พระเทพสังวรญาณ และพระเทพวิสุทธิเมธี เป็นต้น
ชั้น 6 พระราชาคณะชั้นราช
มีราชทินนามว่า "ราช" นำหน้านาม เช่น พระราชศิริธรรมเมรี พระราชนันทาจารย์ และพระราชมงคลมุนี เป็นต้น
ชั้น 7 พระราชาคณะชั้นสามัญ
ไม่มีราชทินนามนำหน้า เช่น พระวิเชียรโมลี พระชัยนาทมุนี และพระกวีรญาณ เป็นต้น
ชั้น 8 พระครู
เป็นตำแหน่งรองจากพระราชาคณะชั้นสามัญ ใช้คำว่าพระครูนำหน้านาม เช่น พระครูพิศาลสังฆโสภณ พระครูวิเศษบุญญากร และพระครูวิสุทธิ์วุฒิคุณ เป็นต้น
สมณศักดิ์ชั้นพระครูมี 10 อันดับ ดังนี้
1.พระครูชั้นสัญญาบัตรชั้นพิเศษ
2.พระครูชั้นสัญญาบัตรชั้นเอก
3.พระครูสัญญาบัตรชั้นโท
4.พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี
5.พระครูปลัด
6.พระครูธรรมธร
7.พระครูวินัยธร
8.พระครูคู่สวด
9.พระครูสมุห์
10.พระครูใบฎีกา
ชั้น 9 ชั้นฐานานุกรม
ไม่มีราชทินนามนำหน้า แต่ใช้ตำแหน่งนำหน้า เช่น พระสมุห์ .....และพระใบฎีกา ..... มีทั้งหมด 3 อันดับ 1.พระปลัด 2.พระสมุห์ 3.พระใบฏีกา
อ้างอิงที่มา : กรมประชาสัมพันธ์
Advertisement