อดีตเจ้าอาวาสยอมรับนำโฉนดวัดไปจำนองก่อนหลุด ยืนยันไม่ได้หนีไปญี่ปุ่น
ชาวบ้านร้อง อดีตเจ้าอาวาสนำโฉนดวัดไปจำนองก่อนหลุด ด้านเจ้าตัวยอมรับเรื่องจริง เหตุต้องใช้เงินบูรณะวัด พยายามหาเงินใช้คืน ลั่นไม่ได้หนีไปญี่ปุ่น
วันที่ 17 ก.ค. 68 ที่ จ.นนทบุรี จากกรณีชาวบ้านร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่ดินของวัดบางแพรก ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เรื่องทึ่ดินวัดหลุดจำนอง ภายหลังอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่า นำโฉนดที่ดินของวัดไปจำนองกับนายทุนไว้ ก่อนที่ดินดังกล่าวจะตกเป็นของนายทุนรายนี้ไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังเกิดเรื่องอดีตเจ้าอาวาสได้ชิงลาออกจากวัดไป เนื่องจากไม่สามาถหาเงินมาไถ่ถอนที่ดินดังกล่าวกลับคืนมาให้วัดได้ ซึ่งปัจจุบันทางวัดได้พยายามเจรจาติดต่อขอซื้อคืน ในราคา 5 ล้านบาท แต่กลับถูกนายทุนเจ้าของที่ดินปฏิเสธ อ้างว่าเป็นเรื่องของธุรกิจและจะขายคืนให้วัดในราคาปัจจุบันคือ 30 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อปี 2555
ล่าสุดทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ได้พูดคุยกับนายจันทร์ อายุ 65 ปี ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ บอกว่า ตนเองเห็นอดีตท่านเจ้าอาวาสที่ลาออกไป บวชที่นี่ตั้งแต่เขาเป็นสามเณร และยังเด็กอยู่เลยโดยในช่วงแรกท่านก็เป็นพระที่ดี แต่พอช่วงหลังหลังท่านก็มีความคิดที่ไม่ตรงกันกับชาวบ้านสักเท่าไหร่ เช่นท่านเป็นพระที่ชอบในเรื่องของศาสตร์เครื่องรางของขลัง เช่น การสร้างไอ้ไข่ และราหู ถึงขั้นมีชาวบ้านออกมาคัดค้านแต่อดีตท่านเจ้าอาวาสท่านก็ไม่ฟัง
ส่วนที่ดินผืนดังกล่าวที่มาเป็นของวัดได้อย่างไรนั้น เนื่องจากเจ้าอาวาสคนก่อนหน้านี้ได้มีการมรณภาพไปแล้ว ท่านมีการเก็บเงินของวัดไว้ ณ ตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาท จึงได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อที่ดินหลังวัดประมาณ 3 ไร่กว่าๆไว้
สำหรับตอนที่อดีตเจ้าวาดรูปที่หนีหายไปได้นำที่ดินไปจำนองนั้น ไม่มีชาวบ้านคนไหนทราบเรื่อง แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่เทศบาล ได้มีการมาถมดินไว้ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ณ ตอนนั้นที่ดินเป็นของคนอื่นไปแล้ว หลังจากนั้นไม่นานนายทุนก็ได้มีการปักป้ายขายประกาศที่ดิน และเผอิญมีชาวบ้านไปเห็นและสงสัยว่าใครมาปักป้ายขายที่ดินในพื้นที่ของวัดเรื่องจึงเกิดแดงขึ้นมา จนกระทั่งเป็นข่าวไปเมื่อประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมาแต่สุดท้ายเขาก็เงียบ
จนมาเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว อดีตเจ้าอาวาสจึงได้ออกจากวัดไป แต่ก็ไม่ได้มีการตอบคำถามชาวบ้านแต่อย่างใดว่าเงินที่นำไปจำนอง ได้ใช้ทำอะไรไปบ้าง โดยปัจจุบันทราบว่า ท่านไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าไปจริงหรือไม่ ส่วนทำไมท่านถึงไปที่ประเทศญี่ปุ่นเนื่องจากก่อนหน้านี้ท่านดังในเรื่องการเขียนยันต์ และเครื่องรางของขลังถึงขั้นมีสำนักข่าวที่ประเทศญี่ปุ่นมาทำข่าวท่าน
ขณะที่อดีตเจ้าอาวาสวัดบางแพรก ยอมรับจากการพูดคุยทางโทรศัพท์มือถือกับทีมข่าว “อมรินทร์ทีวี” ว่า ได้มีการนำไปจำนองจริง โดยเงินที่ได้รับจากการนำไปจำนองนั้น อาตมาได้นำมาใช้จ่ายเกี่ยวกับภายในวัด บวกกับช่วงนั้นเป็นปี 54 ซึ่งน้ำท่วมหนัก แล้วปี55 ต้องมีการบูรณะวัด จึงจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก จนกระทั่งเมื่อปี 57 ได้เป็นข่าวขึ้นมา สำนักงานพุทธและเจ้าคณะผู้ปกครองได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ข้อเท็จจริงซึ่งอาตมาเองก็ได้ชี้แจงในรายละเอียดส่งไปยังเจ้าคณะจังหวัด และสำนักงานพุทธไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็จบไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว และก็ยังคงให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสเช่นเดิม
ต่อมาอาตมาเองก็พยายามหาวิธีแก้ไขมาโดยตลอด จนกระทั่งปี 58 ก็ได้เงินจำนวน 2 ล้านบาท ไปชำระหนี้กับนายทุน แต่นายทุนก็ตีว่า เงินจำนวน 2 ล้านบาทนั้นเป็นดอกเบี้ยที่ทางวัดต้องจ่าย โดยในระหว่างนั้นก็มีการพูดคุยกับนายทุนในเรื่องการขอซื้อคืน แต่ยังคงได้ราคาที่สูงเกินไป และยังคงต่อรองไม่ได้
จนมาเมื่อปี 61 มาเป็นข่าวอีกครั้ง แต่ตอนนั้นอาตมาเองก็พยายามต่อสู้ไปยังสภาทนายความ เพื่อพยายามขอซื้อที่ดินในราคาที่ไม่สูงมากนักกับคืนมา จนกระทั่งข่าวก็เงียบไป ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าที่กลับมาเป็นข่าวอีกครั้งในวันนี้ ไม่รู้ว่าเกิดจากการกลั่นแกล้งหรือไม่
ส่วนที่ข่าวก่อนหน้านี้บอกว่า อาตมาจะหนีความผิดด้วยกันลาออกเรื่องนี้ไม่ใช่ความจริง และรู้สึกเสียใจ หากว่าถ้าจะหนีทำไมไม่หนีตั้งแต่ที่มีการเริ่มนำที่ดินไปจำนอง ส่วนที่ตนเองมาญี่ปุ่นนั้น เพราะตนเองอยากเป็นสายพระที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่แล้ว
Advertisement
