ศาสตร์สักลายมือ ปาฏิหาริย์ที่มองไม่เห็น เปลี่ยนชีวิตคนได้จริงหรือ?
อาจารย์เปิ้ล สุมาลี เลิศวิลัย จากชีวิตที่เต็มไปด้วยหนี้ ได้เจอปาฏิหาริย์จากสิ่งที่มองไม่เห็น สู่ศาสตร์สักลายมือพันล้าน ที่เปลี่ยนชีวิตคนได้จริงหรือ?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โปรดใช้วิจาณญาณในการอ่าน...
ถ้าคุณลำบากอยู่ตอนนี้ ไม่มีเงิน แล้วมาเพื่อหวังว่าสักปุ๊บแล้ววันพรุ่งนี้จะดีเลย อาจารย์ไม่อยากให้มา อยากให้เก็บเงินไว้กินข้าวก่อน ไปแก้ปัญหาในชีวิตก่อน ให้พร้อมจริงๆ ค่อยมา การมู มูได้ค่ะแต่ต้องมูแล้วไม่เครียด ไม่บีบรัดตัวเอง ไม่คาดหวัง ถ้าคุณมาหาอาจารย์แล้วสำเร็จ แสดงว่าดวงเราตรงกัน ดวงเราถูกโฉลกกัน
อาจารย์เปิ้ล สุมาลี เลิศวิลัย อาจารย์สักลายมือเศรษฐี จากคนที่เป็นหนี้จนชีวิตติดลบ เริ่มสู้หาทางออก จนเจอปาฏิหาริย์จากสิ่งที่มองไม่เห็น สู่ศาสตร์สักลายมือพันล้านที่เจ้าตัวบอกว่าศึกษามาอย่างลึกซึ้ง ใครสักได้ไม่ได้ก็ต้องพูดตรงๆ
ตอนแรกที่อยู่วงการสายมู ก็เป็นเจ้าแรกที่ขายสาริการุ่นรวยเปรี้ยงออกมา ดังฮือฮาเลยเพราะเป็นวัตถุมงคลชิ้นแรกของร้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็เป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้าขายของตลาดนัดทั่วไป
ชีวิตลำบากมาก ติดหนี้นอกระบบ เป็นหนี้ทุกอย่างที่มีให้กู้บนประเทศไทย ด้วยความที่ตอนนั้นเราอยู่ภูเก็ต ไปขายตลาดนัดที่มีแค่เสาร์-อาทิตย์ ส่วนจันทร์-ศุกร์เราเปิดหน้าร้าน แล้วภูเก็ตเวลาที่ฝนตกมันจะตกติดต่อกันเลย ไม่เหมือนที่กรุงเทพฯ ที่หนึ่งเดือนจะตก 1-2 วัน แต่ที่ภูเก็ตตกหนึ่งอาทิตย์ติดกัน พอฝนตกเป็นอาทิตย์ก็จะไม่มีลูกค้ามา เงินก็ช็อต เราก็ต้องกู้มา กู้มาหนึ่งเจ้าแล้วผ่อนไม่ไหว เราก็ไปหาอีกเจ้ามาทบกับเจ้าแรก กู้เจ้าที่สามมาส่งเจ้าที่สอง หมุนวนอยู่แบบนี้
จากชีวิตติดลบ เริ่มคิดสู่หาทุกทาง จนเจอสิ่งที่มองไม่เห็น
ด้วยความที่ก่อนหน้าเราเป็นคนที่ไม่เชื่อสายมู ไม่ได้ไหว้พระ ตักบาตร ทำบุญ เพราะคิดว่าการที่เราจะรวยได้ เราต้องทำจากสองมือของเรา พึ่งพาตัวเองทำด้วยตัวเอง เราคิดแบบนั้น แต่พอวันนั้นเงินเก็บเราไม่มี ก็คิดว่าทำไมตอนที่เรามีเงินเก็บเป็นแสนถึงไม่เหลือเลย มันมีเรื่องให้ต้องจ่าย อุบัติเหตุบ้าง ลูกป่วยบ้าง สารพัดทุกอย่าง เราก็เริ่มมาคิดทบทวนว่าเราเป็นอะไร แต่ในวันนั้นไม่มีเงินเลย ขายของได้ 4,000 กว่าบาท ต้องจ่ายหนี้นอกระบบสามเจ้า เจ้าละ 2,500 บาท ซึ่งมันไม่พอ เราก็เครียดเพราะเวลาเขามาทวงมันเสียงดัง คนจะรู้กันทั้งซอย หลังจากนั้นเหมือนเราได้เจอปาฏิหาริย์
ของแบบนี้มันต้องเจอด้วยตัวเองจริงๆ ถ้าเราไปเล่าให้คนอื่นฟังเขาจะคิดว่าเราคิดขึ้นมาเอง มโนหรือว่างมงาย แต่เราเจอด้วยตัวเองจริงๆ มาให้เห็นเลยมาสอนให้เรามีสติ แล้วก็ให้สาริกาเรามา 1 องค์
ให้เช่าสาลิกา รวยเปรี้ยง สู่การสักลายมือพันล้าน
ตอนนั้นมันเหมือนว่าเราเริ่มเชื่อในเรื่องพวกนี้ เชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น เราเริ่มศึกษาจริงจัง โหงวเฮ้งก็สำคัญ เมื่อก่อนอาจารย์เป็นคนคิ้วตกคิ้วโค้งเลย พอเราได้ศึกษาว่าคิ้วตกมันทำให้เราเก็บเงินไม่อยู่ เวลาจะไปคุยเจรจางานกับใครจะไม่สำเร็จ เราก็เริ่มศึกษาาเริ่มชอบก็เริ่มไปเรียนสักคิ้วโหงวเฮ้ง ตอนเรียนราคามันแพง เรียนไปยังไม่ทันจบหลักสูตรก็แข่งกันลดราคาแข่งกันราคาถูก เราก็คิดถ้าเป็นแบบนี้แย่เลย
จนได้เจอเพื่อนคนหนึ่งที่เขารวยขึ้นมาก ก็ถามเขาว่าไปทำอะไรมา เขาบอกว่าไปสักลายมือที่ต่างประเทศมา แต่เป็นการผ่าตัดเส้นหลายเส้น ซึ่งแพงมาก เราคิดว่าตัวเราเองไม่ไหวหรอก ตอนนั้นเรียนศาสตร์โหงวเฮ้งอยู่ พอได้ยินแบบนี้ก็เลยคิดว่าเราต้องศึกษาศาสตร์ลายมือดูบ้างว่ามันเป็นยังไง ช่วยอะไร ช่วยได้จริงไหม แล้วคิดเองว่าถ้าเรื่องลายมือมันไม่มีผลต่อชีวิต คนเราคงไม่ไปดูดวงกัน
ทำไมต้องสักลายมือ
บางคนไม่มีเส้นการเงิน บางคนเส้นดี เส้นไม่ได้น่าเครียด บางคนเส้นการเงินดีอยู่แล้ว เส้นวาสนาดี แค่ว่าขาดตอนไม่ต่อเนื่อง เราเลยเอามาประยุกต์กับที่เราสักเรียนสักอยู่แล้ว มองว่าถ้าศาสตร์ลายมือมันช่วยได้จริง เราเปลี่ยนได้ บวกกับที่เรียนมาแล้วเรารู้แล้วฝ่ามือเราไม่มีเส้นวาสนา ไม่มีเส้นการเงินเส้นโชคลาภเลย คือเส้นดีๆ ที่จะทำให้เราเป็นเศรษฐีได้ ไม่มีเลย ก็เลยลองสักให้ตัวเอง แต่เราไม่อยากให้เส้นติดถาวร ไม่อยากให้สีแดงติดถาวรเลยลองประยุกต์ดูว่าทำยังไงได้ มีวิธีไหนที่สีแดงไม่ต้องติดฝ่ามือไปตลอด เพราะมันจะดูไม่สะอาด เราก็ทำได้ ช่วงนั้นสักให้ตัวเองก่อนที่จะเปิดร้านสักคิ้ว สักให้ตัวเองอยู่ประมาณ 6 เดือน ระหว่างสักไปก็ขอให้มีลูกค้ามาสักคิ้วเยอะๆพอเปิดร้านวันแรกก็เข้ามาเยอะมากจริงๆ ยอดจองเต็มตลอด
พอเปิดร้านสักคิ้วด้วย ลูกค้าบูชาสาริกาเราก็เยอะ สักคิ้วก็เยอะ ก็เริ่มสงสัยแล้วว่าดวงเราจะได้อยู่สายมูสายนี้ ก็เริ่มศึกษาเรื่องอย่างอื่นตามมา จนได้มาลุยด้านวัตถุมงคลเต็มตัว
อยากมูต้องฟังก่อน...
พื้นฐานง่ายๆ ถ้าเราอยากจะมูแล้วให้สำเร็จเหมือนอย่างอาจารย์ ต้องเป็นคนไม่คิดลบ ไม่ขี้อิจฉา แล้วการมูต้องควบคู่กับการทำบุญทำทานควบคู่กันไป เช่น เรายังไม่รวย ก็ทำตามกำลัง ไม่ใช่ว่ามีพันสองพันทำหมด ไม่ใช่ เหมือนเมื่อก่อนตอนที่อาจารย์ยังจน ทำบุญตักบาตรก็เอาตามกำลังของเรา แต่มันต้องควบคู่กันไป จะหวังมูอย่างเดียวแล้วได้ผลรวยล้นฟ้า มันเป็นไปไม่ได้ ต้องทำบุญทำทาน บวกกับนิสัยของเราควบคู่กันไป
ติดตามเรื่องราวศาสตร์สักลายมือ เปลี่ยนชีวิตได้จริงหรือไม่ ได้จากคลิปนี้
Advertisement
