
เมื่อเวลา 08.00 น. (30 พ.ค. 2568) สถานการณ์ความตรึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง หลังทหารกะเหรี่ยงและทหารกองทัพเมียนมาต่างเสริมกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้าไปสู้รบกันระยะประชิด โดยความตรึงเครียดล่าสุดอยู่ที่บริเวณเนินเขาฐานอูเกรทะ จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งฐานทหารเมียนมาฐานดังกล่าวอยู่ใกล้กับถนนสายบ้านมอเกอร์-บ้านวาเล่ย์ใต้ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก โดยฝ่ายทหารกะเหรี่ยงนำกำลังเข้าปิดล้อมเพื่อโจมตีและต้องการยึดฐานอูเกรทะให้ได้
ซึ่งตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา มีรายงานเครื่องบินรบของกองทัพอากาศเมียนมาจำนวน 1 ลำ บินทิ้งระเบิดถล่มทหารกลุ่มต่อต้านในพื้นที่หุบเขาเขต จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้ามกับ อ.แม่สอด และ อ.พบพระ จ.ตาก ซึ่งทำให้มีชาวเมียนมาได้รับบาดเจ็บไปหลายราย ส่วนฝ่ายต่อต้านอีกหนึ่งกองร้อย ซึ่งนำโดยทหารกะเหรี่ยง KNLA สนธิกำลังทหารกับกองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) และทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นดีโอ (KNDO) ก็ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินทิ้งระเบิดโจมตีฐานตั้งทหารเมียนมา ฐานบุเรงนอง ซึ่งฐานดังกล่าวตั้งอยู่บนยอดเขาจนมีการยิงปะทะด้วยอาวุธนานาชนิดโดย หลังสิ้นเสียงปืนปะทะ ทหารกะเหรี่ยงสามารถเข้ายึดฐานบุเรงนองได้สำเร็จ ซึ่งฐานดังกล่าวอยู่ตรงข้ามกับหมู่บ้านพะดี หมู่ที่ 2 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก
ส่วนในฝั่งประเทศไทยที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ซึงเป็นโรงเรียนติดแนวตะเข็บชายแดนไทย-เมียนมา และเป็นโรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน ทางผู้บริหารของโรงเรียนบ้านวาเล่ย์ได้จัดให้มีการฝึกซ้อมแผนหนีภัยการสู้รบแบบฉุกเฉิน กรณีเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจากการสู้รบของประเทศเพื่อนบ้าน โดยคณะครูและนักเรียนรวมถึงบุคลากรทางการศึกษา ได้จำลองสถานการณ์ว่ามีลูกกระสุนและระเบิดไม่ทราบฝ่ายตกใกล้โรงเรียน
จากนั้นโรงเรียนตีระฆังสัญญาณให้ครูและนักเรียนทุกห้องเรียนรีบวิ่งเข้าไปในหลุมหลบภัยของโรงเรียนอย่างรวดเร็ว โดยอาคารหลุมหลบภัยของโรงเรียนบ้านวาเล่ย์แห่งนี้สามารถรองรับนักเรียนได้มากถึง 400 คน ซึ่งการฝึกซ้อมแผนในครั้งนี้ก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อ.พบพระ จ.ตาก เข้าฝึกสอนวิธีการใช้หลุมภัยอย่างถูกต้องและปลอดภัย
ล่าสุดหลังสถานการณ์เหตุการณ์สู้รบฝั่งตรงข้ามกับ อ.พบพระ จ.ตาก ทวีความรุนแรงมากขึ้นแบบรายวัน ทำให้ขณะนี้ให้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาอพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ในพื้นที่ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 4 แห่ง พักอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวดังนี้
1. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดมอเกอร์ไทย ม.1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 361 คน
2. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราววัดบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 20 คน
3. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวคริสตจักรบ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 36 คน
4. พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวโกดังเอกพันธ์บ้านมอเกอร์ไทย หมู่ที่ 1 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก จำนวน 116 คน
รวมทั้งหมด 533 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง อ.พบพระ จ.ตาก เข้าไปดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาทุกคน ตามหลักสากล พร้อมตรึงกำลังทหารและอาวุธหนักทุกจุดฝั่งตรงข้ามพื้นที่ยิงปะทะแนวชายแดน จ.ตาก ทุกพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
Advertisement