วันที่ 6 พ.ค. 68 เภสัชกรเด่น ปัญญานันท์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ เปิดเผยสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หูดับ หรือโรคติดเชื้อสเตรปโตคอกคัสในจังหวัดว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยสะสมแล้ว 16 ราย เสียชีวิต 2 ราย และยังมีผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาอีก 14 ราย ส่งผลให้จังหวัดแพร่ มีอัตราผู้ป่วยโรคไข้หูดับสูงสุดในพื้นที่ภาคเหนือ
จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการชำแหละหมูเอง ภายในครัวเรือน รวมถึงการบริโภคหมูดิบ หรือหมูที่ปรุงไม่สุก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา บางรายมีบาดแผลตามร่างกายแล้วสัมผัสกับเนื้อหมูดิบโดยตรง ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญที่เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ จึงขอความร่วมมือประชาชน งดบริโภคหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบดิบ และอาหารพื้นเมืองที่ปรุงไม่สุกเพียงพอ พร้อมแนะนำให้ปรุงอาหารด้วยความร้อนอย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส นาน 10 นาที เพื่อทำลายเชื้อโรค
นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้ผู้ปรุงอาหารที่มีบาดแผลควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสเนื้อหมูดิบโดยตรง หรือควรสวมถุงมือทุกครั้ง และควรแยกภาชนะ เช่น เขียง มีด ตะเกียบ สำหรับเนื้อหมูดิบ และเนื้อสุกอย่างเคร่งครัด หากมีอาการไข้สูงอาเจียนคอแข็งหรือมีประวัติรับประทานหมูดิบควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัย และรักษาโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ยังคงประสานงานร่วมกับปศุสัตว์จังหวัดลงพื้นที่สอบสวนโรค และตรวจสอบแหล่งที่มาของหมูในแต่ละกรณี หากพบว่ามีแหล่งจำหน่ายใดไม่ผ่านมาตรฐานสุขอนามัย จะดำเนินการควบคุมโรคทันที
ขณะเดียวกันบรรยากาศในตลาดสดจังหวัดแพร่ยังคงคึกคัก โดยแม่ค้าเขียงหมูให้ข้อมูลว่า ยอดจำหน่ายเนื้อหมูไม่ได้ลดลง เนื่องจากประชาชนยังคงมีความมั่นใจในคุณภาพของหมูที่จำหน่ายในตลาด ส่วนใหญ่มาจากฟาร์มที่ผ่านการรับรอง และตรวจสอบคุณภาพจากปศุสัตว์แล้ว ทำให้ลูกค้ายังมั่นใจ และมาซื้อกันตามปกติ
Advertisement