รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ถกสถานการณ์น้ำท่วม ยัน กันงบกลางหลายพันล้านช่วยประชาชน เชื่อไม่หนักเท่าปี 54 พร้อมกำชับ ปภ.- ดีอี แจ้งเตือน
วันที่ 26 ส.ค. 67 นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุม ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมว่า สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาประชุม เพื่อรายงานสถานการณ์ เพื่อประเมินถึงสถานการณ์กลุ่มฝนที่จะเข้ามาในอนาคตข้างหน้านี้ รวมถึงจะมีการเร่งรัดโครงการที่ สท.นช. เคยเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนก.ค. และต้นเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมด 2 โครงการ
รวมถึงหาวิธีการในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ รวมถึงดูเรื่องงบประมาณว่าจะมีส่วนไหนที่นำมาช่วยเหลือประชาชนได้บ้าง
ส่วนงบกลางมาใช้ในการช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมจะเพียงพอหรือไม่นั้น นายจักรพงษ์ ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้เคยแถลงข่าวไปแล้วว่ามีการกันงบกลางต่อสภาฯ ที่มีข้อกังวลต่อการใช้งบกลาง โดยขอยืนยันว่า มีการกันงบกลางในส่วนนี้ไว้แล้วเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในส่วนนี้โดยเฉพาะ
ส่วนหลักเกณฑ์ในการเยียวยา สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) จะมีการพิจารณาพิเศษอะไรเป็นหรือไม่ ต้องพูดคุยเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อนว่าเป็นอย่างไร และมีประชาชนเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน จึงขอหารือกันก่อน และจะมีการแถลงความชัดเจนต่อไป
ส่วนมีการประเมินหรือไม่ว่าน้ำจะมากเท่าปี 2554 นายจักรพงษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นปีนี้ปริมาณน้ำไม่เท่ากับปี 54 แน่นอน แต่วันนี้ได้เชิญกรมอุตุนิยมวิทยามาร่วมประเมินสถานการณ์ให้มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ข้อมูลอัพเดทที่สุด
ขณะที่ข้อเรียกร้องของประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งเตือนสถานการณ์ที่ล่าช้า รวมถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานมีระบบแจ้งเตือนอยู่แล้ว ซึ่งตนจะมีการกำชับไปอีกครั้ง
ขณะที่การแก้ไขปัญหาจากอินเตอร์เน็ต เบื้องต้นกระทรวงดิจิทัล และเศรษฐกิจเพื่อสังคม อาจจะมีการนำอุปกรณ์ลงไปในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการเพิ่มรถโมบายเพื่อส่งสัญญาณชั่วคราวในภารกิจเฉพาะ
โดยเริ่มการประชุม กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการรายงานสถานการณ์สภาพอากาศ ว่าในสัปดาห์นึ้มีแนวโน้มว่าร่องมรสุมจะขยับมาที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน และภาคกลาง จึงทำให้ 2-3 วันนี้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกเพิ่มขึ้นคือในพื้นที่ภาคใต้ ฝั่งตะวันออก รวมไปถึงภาคตะวันออก จึงต้องเฝ้าระวังในช่วงสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะเพราะในพื้นที่น้ำท่วมภาคเหนือที่จะตกลงมาซ้ำ
Advertisement