Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
มอบตัวครบแก๊ง คดีฆ่าหนุ่มโรงงาน พบ ช่างกิต คบหากับเมียผู้ตายมา 3 เดือน

มอบตัวครบแก๊ง คดีฆ่าหนุ่มโรงงาน พบ ช่างกิต คบหากับเมียผู้ตายมา 3 เดือน

2 ก.พ. 67
15:37 น.
|
5.1K
แชร์

ตำรวจตั้งโต๊ะแถลงคดีฆ่าหนุ่มโรงงานหมกมอเตอร์เวย์ ล่าสุดมอบตัวครบแก๊ง พบข้อมูล ช่างกิต ผู้ก่อเหตุ คบหากับเมียผู้ตายมา 3 เดือน

ความคืบหน้าคดี คนร้ายอุ้มฆ่าหนุ่มโรงงาน นายธนาสันต์ เตอั้น อายุ 33 ปี ถูกโยนทิ้งมัดมืดมัดเท้าไว้ข้างทางเลียบมอเตอร์เวย์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 ที่ผ่านมา ก่อนที่เมียผู้ตายจะให้ข้อมูลกับตำรวจว่าก่อนที่ผัวหายไปพบส่งแชตปริศนาผ่านเฟซบุ๊ก อ้างทำหญิงท้อง ขอเลิกเมีย

และเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 2 ก.พ. 67 ตำรวจเข้าจับกุมนายกิตติโชติ แพไพรมูล อายุ 37 ปี โดยนาย กิตติโชติ เป็น 1 ในกลุ่มที่ก่อเหตุอุ้มฆ่านายธนาสันต์ แล้วนำศพมาทิ้งไว้ข้างทางบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ก ขาเข้ากรุงเทพฯ ในพื้นที่หมู่ 10 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งวันที่พบศพวันที่ 29 ม.ค. 67 นายกิตติโชตได้ขับรถมากับ น.ส.วรรณพร หลักแหลม หรือ พร อายุ 33 ปี ภรรยาผู้ตาย ก่อนจะมายืนดูตอนเก็บร่างผู้ตาย 

จากการวิเคราะห์พยานหลักฐานเบื้องต้น เชื่อได้ว่ามีผู้ก่อเหตุมากกว่า 1 คน มีการเตรียมการและวางแผนมาก่อน ใช้ยานพาหนะนำร่างผู้ตายมาทิ้ง เพื่ออำพรางคดี และมีความสลับซับซ้อน 

โดยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ในคืนวันเสาร์ที่ 27 มกราคม 2567 เวลาประมาณ 21.14 น. กลุ่มคนร้าย จำนวน 5 คน มีการรวมตัวกันที่อู่ซ่อมรถของ นายกิตติโชติ หรือช่างกิต ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ก่อนที่ทั้งหมดจะขึ้นรถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นมิราจ สีแดง ออกเดินทางไปยังบ้านของผู้ตาย เพื่อเฝ้ารอเวลาผู้ตายออกไปทำงาน และเมื่อผู้ตายได้เริ่มออกเดินทาง กลุ่มคนร้ายได้ขับขี่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด จนถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ห่างจากบ้านผู้ตายประมาณ 2 กิโลเมตร กลุ่มคนร้ายได้ขับรถปาดหน้ารถจักรยานยนต์ผู้ตาย และได้ลงมาบังคับผู้ตายให้ขึ้นรถมาด้วย จากนั้นจึงได้ขับขี่ไปตามเส้นทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบ กล้องวงจรปิดอย่างต่อเนื่องจนไปถึงจุดที่พบศพ และหลังจากก่อเหตุ ได้กลับไปยังอู่ของช่างกิต อีกครั้งหนึ่ง และ เมื่อมีการตรวจสอบขยายผลลงไปอีก พบว่า ก่อนการก่อเหตุประมาณ 6 วัน นายกิตติโชติ หรือช่างกิต ได้ใช้รถยนต์คันก่อเหตุมายังหมู่บ้านของผู้ตายเพื่อดูเป้าหมายก่อนแล้ว

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และพิสูจน์ทราบตัวบุคคลผู้ก่อเหตุทั้งหมด จนทราบตัว นายกิตติโชติ หรือช่างกิต เป็นคนแรก จึงออกหมายจับ และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 23.00 น. ได้จับกุมตัว ได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมทั้งได้ตรวจยึดรถยนต์ คันที่ใช้ก่อเหตุ

โดยนายกิตติโชติ หรือช่างกิต ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันกับพวกก่อเหตุในครั้งนี้จริง ซึ่งต่อมา จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างต่อเนื่อง ทำให้กลุ่มคนร้ายได้รับแรงกดดัน จนกระทั่งในช่วงเช้าของวันศุกร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 10.00 น. นายนันทพัทธ์ฯ หรือ โอ๊ต (สงวนนามสกุล) , นายปานเทพ หรือแท๊ป (สงวนนามสกุล) , นายสุขสงกรานต์ หรือกรานต์ (สงวนนามสกุล) และ น.ส.อภิสรา หรือนิว (สงวนนามสกุล) ติดต่อ เข้ามอบตัว ซึ่งทั้งหมดให้การรับสารภาพ และนำชี้จุดที่นำรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งไว้ในคลองส่งน้ำ ในเขตพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

แต่ทั้ง 5 คนยังให้การไม่ตรงกัน ซึ่งนายกิต ระบุว่า มีปัญหาส่วนตัวกับผู้ตายจึงลั่นไกยิง แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าปัญหาส่วนตัวนั่นคืออะไร แต่ข้อมูลพบว่านายกิต กับ ภรรยาผู้ตาย มีการคบหากันมาแล้ว 3 เดือน

ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบว่าภรรยาผู้ตายมีส่วนรู้เห็นด้วย แต่หลังจากเสร็จสิ้นงานศพผู้ตาย ตำรวจจะเรียกภรรผู้ตายมาสอบสวนขยายผลอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการสังหารครั้งนี้

โดยจากพฤติการณ์การกระทำความผิดของกลุ่มคนร้ายทั้งหมด ถือเป็นความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย โดยมีหรือใช้อาวุธปืน , ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย , หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรและความจำเป็นเร่งด่วนและโดยไม่มีใบอนุญาต และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน” ซึ่งมีอัตราโทษสูงถึงประหารชีวิต.

 

Advertisement

แชร์
มอบตัวครบแก๊ง คดีฆ่าหนุ่มโรงงาน พบ ช่างกิต คบหากับเมียผู้ตายมา 3 เดือน