"พ.ต.อ.ภาคภูมิ"ไม่ปฏิเสธสัมพันธ์"มินนี่"แต่ไม่อยากให้เมียรู้เพราะป่วย ที่มีเงินโอนเข้าเพราะเคยยืมเงินใช้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเว็บพนัน
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย หรือ ผกก.หนึ่ง เปิดใจถึงกรณีที่ถูกเชื่อมโยงพนันออนไลน์ว่ารู้จักกับ"มินนี่"ตั้งแต่ปี 63 ตอนที่ไปเป็นผู้กำกับที่จังหวัดเลย เจอกันที่งานเลี้ยงปลายปี ก่อนจะย้ายไปที่ขอนแก่น 2-3 เดือนเจอกัน 2-3 ครั้ง แต่ตอนนั้นรู้จักแม่ของมินนี่ก่อน เพราะแม่มินนี่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นและเป็นคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามบริหารงานตำรวจที่ตัวเองทำงานอยู่
หลังจากนั้นก็ย้ายมาขอนแก่นช่วงนั้นภรรยาตัวเองไม่สบาย ก่อนที่เวลาผ่านไปถึง 2 ปีมาเจอมินนี่ช่วงต้นปี 2566 ที่งานเลี้ยงที่ร้านอาหาร ตอนนั้นรู้แค่ว่าเป็นเน็ตไอดอล ทำงานออนไลน์ แต่ทั้งนี้ก็อยากให้มินนี่ได้ออกมาชี้แจงก่อน เพราะมองว่าเป็นผู้หญิง หากตัวเองพูดอะไรมากไปกลัวจะไม่ให้เกียรติผู้หญิง อีกอย่างตัวเองก็มีภรรยาอยู่แล้ว ยอมรับว่าผิดและเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มักง่ายไม่รับผิดชอบเป็นคนที่ไม่ดีไปยุ่งเกี่ยวกับ"มินนี่"ทั้งที่มีภรรยาอยู่แล้ว
ยอมรับแมนๆว่าที่ทำอยู่ไม่อยากให้ภรรยารู้ เพราะภรรยาป่วยอยู่เป็น “โรคเส้นเลือดสมอง” ป่วยมาหลายปี แต่สุดท้ายเดี๋ยวมินนี่จะต้องออกมาพูด ซึ่งบางข้อมูลก็ไม่จริง ส่วนตัวมินนี่เองชอบถ่ายรูปลงโซเชี่ยล ตัวเองก็เตือนบ่อยๆเพราะก็กลัวภรรยาเห็น แต่สุดท้ายก็ลงอยู่ดี
ส่วนเรื่องเว็บพนัน"มินนี่"เคยโทรมาปรึกษาว่ามีตำรวจบางคนโทรเรียกให้เพื่อนไปพบที่สิงคโปร์เพื่อคุยอะไรบางอย่าง ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวนคดีแล้ว ตัวเองก็มีการเตือนให้มินนี่ระวังอย่าเอาตัวเองไปเกี่ยวข้อง ส่วนเรื่องการโอนเงินด้วยพื้นฐานครอบครัวมินนี่มีเงินเยอะอยู่แล้ว เพราะครอบครัวเป็นข้าราชการ ยอมรับว่าบางครั้งตัวเองก็ยืมเงินมินนี่ คืนบ้างไม่คืนบ้าง 6-7 ครั้ง ตอนนี้ก็ยังคืนไม่ครบจำนวนเงินก็ไม่เยอะตามที่เป็นข่าว
หลังมินนี่ถูกจับเดือนกรกฎาคม มินนี่ปกติจะคุยไลน์กันส่วนใหญ่ เพราะตัวเองก็ต้องหลบไม่ให้รู้ แต่ครั้งนี้มินนี่โทรเบอร์มาซึ่งไม่เคยโทรหากันเลยตั้งแต่รู้จักกัน ตอนนั้นตัวเองก็ถามถูกจับเรื่องอะไร ที่ไหน พอคุยกันเสร็จตัวเองก็บอกให้ไปประกันตัวก่อน ส่วนบัญชีธนาคารตัวเองก็มีแต่รับเงินเดือนที่บริสุทธิ์เท่านั้น ส่วนถ้ามีคนโอนเงินเข้าบัญชีสุดท้ายภรรยาตัวเองก็รู้ เท่าที่รับโอนจากมินนี่มาครั้งละไม่เกิน 1-2 แสนบาทเพิ่งเริ่มมาโอนให้ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ยอมรับว่าตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ทำให้พ่อแม่ชื่อเสียง วงค์ตระกูลเสียหาย ทำให้ภรรยาลูกได้รับผลกระทบ ไม่ใช่แค่ฝ่ายตัวเองฝ่ายครอบครัวมินนี่เองก็เสียหาย รูปภาพที่ออกไปก็ชัดเจน จริงๆตำรวจระดับใหญ่กว่าตนก็มีทำ ทำมากกว่าด้วยซ้ำไป ตัวเองไม่มีปัญญาไปเลี้ยงใครได้อยู่แล้ว มองว่าคนที่ขุดหรือเอาภาพมาปล่อยทำเกินไป
เป็นตำรวจมาไม่เคยมีเรื่องเสียหายมากขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้นผู้บังคับบัญชาต้องมาเสียหายไปด้วยอีก "บิ๊กโจ๊ก"ก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย ปกติลูกน้องบิ๊กโจ๊กทำงานต้องมีค่าใช้จ่าย"บิ๊กโจ๊ก"ก็ต้องเป็นคนออกก่อน ส่วนที่มีคนอ้างว่าตัวเองมีบัญชีม้าจะบอกว่าแค่บัญชีปกติยังทำยากเลย สั่งลูกน้องไปกดหรือเบิกเงินอย่างเดียว
ทุกคนไม่มีใครรู้ว่าตัวเองจะโดนหมายจับแบบนี้ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยไม่เป็นธรรมมากๆหลายคนได้รับโอนเพราะต้องกดเงินให้นายหรือทำธุรกรรมให้ สุดท้ายก็โดนไปด้วยโดยไม่ถูกเรียกมาสอบซักคำ จะมีพิสูจน์ความผิดต้องพิสูจน์ความบริสุทธิ์ด้วยไม่ใช่จงใจจะเอาผิดอย่างเดียว
ส่วนกระแสสังคมที่บอกน้องชายของตัวเองรับมินนี่ไปดูแลต่อนั้น มองว่าเป็นการทำความรู้จักกันมากว่า ยอมรับน้องชายเคยเจอกับมินนี่ 2 ครั้ง ครั้งแรกไปกินข้าวกับมินนี่ มินนี่เองก็ถ่ายรูปมาให้ตัวเองดู ครั้งสองจำได้ว่าไปเจอที่สถานบันเทิง น้องชายเองก็เคยมาเล่าให้ฟังว่าเจอมินนี่ ตัวเองก็ไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ยอมรับว่าสงสารน้องชายมากที่ถูกโยงไปด้วย.
Advertisement