ราชทัณฑ์ เผย กำนันนก เครียด แต่กินข้าวได้ปกติ ตื่นมาสวดมนต์ กินข้าวแกงจืดหมูใส่ผัก
เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัวนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ “กำนันนกนครปฐม” ไว้แล้ว พบมีอาการเครียด เป็นความดัน แต่กินข้าวได้ปกติ เมื่อเช้าตื่นมาสวดมนต์ และทานข้าวแกงจืดหมูใส่ผัก
โดยเอกสารระบุ
วันที่ 10 กันยายน 2566 นายสิทธิ สุวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกประจำ
กรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก กำนันตำบลตาก้อง
อำเภอเมืองนครปฐม ผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับการยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่จังหวัดนครปฐม
เสียชีวิต นั้น นายสิทธิฯ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษ
กรุงเทพมหานคร ว่าได้รับ ข.ช.ประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก ในข้อหากระทำความผิดฐาน
เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น ไว้เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่
9 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 15.30 น. จากศาลอาญา รัชดา เข้าสู่กระบวนการแรกรับ
ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของเรือนจำ (SOPs) โดยมีเจ้าหน้าที่งานรูปพรรณ ฝ่ายจำแนก
ลักษณะผู้ต้องขัง ได้ดำเนินการสอบถามประวัติ พิมพ์มือ ถ่ายรูป หลังจากนั้นพยาบาลวิชาชีพ
ปฏิบัติการ ดำเนินการตรวจสุขภาพและสอบถามประวัติการรักษา ซึ่งผู้ต้องขังแจ้งว่า
มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง มีน้ำหนักตัวมาก และภายนอกมีอาการเครียด มีความกังวลอย่าง
เห็นได้ชัด แต่หลังจากที่ส่งตัวเข้าคุมขังที่แดนกักโรค โดยมีผู้ต้องขังเป็นเพื่อนร่วมห้องจำนวน 4 คน
เมื่อคืนนี้ สามารถนอนหลับและรับประทานอาหารได้ โดยเช้านี้ เวลา 05.30 น. ตื่นมาทำกิจกรรม
สวดมนต์ไหว้พระ รับประทานอาหารเช้าที่ ทางเรือนจำจัดเตรียมไว้ เป็นข้าวสวยและแกงจืดหมูใส่ผัก หลังรับประทานอาหารได้นอนพักผ่อนและพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังได้ตามปกติ หลังจากนี้
จะผ่านการคัดกรองโรค ตรวจหาเชื้อโควิด-19 และกักตัวอยู่ในสถานที่กักกันโรคของแดนแรกรับ
เป็นระยะเวลา 5 วัน ก่อนจะส่งไปที่ห้องกันชน เพื่อดูอาการอีก 5 วัน หากตรวจแล้วไม่พบ
เชื้อโควิด-19 จะเข้าสู่กระบวนการต่อไป คือการพิจารณาของคณะกรรมการจำแนกลักษณะ
ผู้ต้องขังที่ต้องสัมภาษณ์ ดูประวัติเป็นรายบุคคลว่าจะส่งตัวไปควบคุมที่แดนใดต่อไป
นายสิทธิ กล่าวทิ้งท้ายว่า เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีจิตแพทย์เข้าตรวจ
เป็นประจำทุกสัปดาห์ ตลอดจนมีนักจิตวิทยาคลินิกปฏิบัติหน้าที่คอยดูแลด้านสุขภาพจิต
โดยเป็นไปตามกระบวนการต่าง ๆ ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งมีการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังภายใต้กรอบของ
กฎหมายและมาตรฐานการดูแลควบคุมผู้ต้องขังตามหลักสิทธิมนุษยชน
Advertisement