ไทยสร้างไทย เปิดตัว "พลโทภราดร" แคนดิเดตนายกฯลําดับ 2
พรรคไทยสร้างไทยประกาศเปิดตัว พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีลําดับที่ 2 ชูสโลแกน "การเมืองสีขาว"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
วันนี้ (25 ธันวาคม 2568) ที่ทำการพรรคแห่งใหม่ของพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวพลโทภราดร พัฒนถาบุตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคไทยสร้างไทย โดยได้มีการกล่าวต้อนรับผู้สมัครสส.ซึ่งถือเป็นกำลังรบหลักในการเลือกตั้งปี 2569
โดยพลโท ภราดร พัฒนถาบุตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีและต้อนรับผู้สมัค สส. ทุกท่านซึ่งถือเป็นกําลังรบหลัก ดูจากหน่วยก้านถือว่ามีความพร้อมที่จะลงศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ติดตามการบ้านการเมืองมาโดยตลอดซึ่งในการเลือกตั้งครั้งก่อนจะมีภาพความชัดเจนในการต่อสู้ของคน 2 ปีก คือฝ่ายเผด็จการและฝ่ายประชาธิปไตย การเลือกตั้งครั้งที่แล้วบ่งบอกให้เห็นแล้วว่าพี่น้องประชาชนมีความรู้เรื่องการเมืองและเลือกฝ่ายประชาธิปไตยจนสามารถเอาชนะฝ่ายเผด็จกาจได้ แต่เป็นความโชคร้ายที่ไปหลงทางนักการเมืองที่ตระบัดสัตย์จึงเกิดปัญหาการเมืองมาถึงปัจจุบันจนนํามาสู้การเลือกตั้งที่จะถึงในครั้งนี้
การเลือกตั้งในครั้งนี้ทางพรรคไทยสร้างไทยจะขายเรื่องความเป็น “ขาวและเทา” ซึ่งประเทศไทยเข้าสู่ภาวะที่น่ากังวลมาก อย่าคิดว่าการเมืองสีเทาไม่มีโอกาสเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินเพราะมีโอกาสเป็นจริงและเคยเกิดขึ้นจริงมาแล้วที่ประธานาธิบดีประเทศหนึ่งเติบโตมาจากทุนสีเทายาเสพติดและสุดท้ายได้เข้ามาบริหารประเทศ ดังนั้นสิ่งที่เราจะขายได้คือ "ขาวและเทา" ถ้าเลือกเราคือขาวและชัดเจนว่าจุดมุ่งหมายคือ "การเมืองสุจริต" โดยพิจารณาจากตัวนักการเมืองที่มีวุฒิภาวะด้วยปัจจัย 4 ประการ ได้แก่ 1.ยึดประชาชนเป็นหลัก 2.มีจิตสํานึกคิดเรื่องกฎหมาย 3.ความรับผิดชอบและโปร่งใส 4.ต้องจบที่ผลประโยชน์ของชาติไม่ใช้จบลงที่บ้านใหญ่บ้านเล็ก
ภารกิจเร่งด่วนต้องประกาศให้พี่น้องประชาชนรู้ 2 Big คือ Big Cleaning เข้ามามากวาดล้างทําความสะอาดปราบปรามการทุจริตโดยไม่เกรงใจใครด้วยคนและเทคโนโลยี และ Big Fighting ประกาศสงครามปิดจบการสู้รบไทยกัมพูชา กวาดล้างอาชญากรรมข้ามชาติหรือสแกมเมอร์ กวาดล้างคอรัปชั่น พิชิตความเลื่อมลํ่าแบบบูรณาการ
พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร กล่าวการปิดจบสถานการณ์ชานแดนไทย-กัมพูชา ว่า ไม่สามารถปิดจบได้ด้วยพันธกิจของกองทัพเพียงอย่างเดียว แต่ต้องปิดจบด้วย 3 พันธกิจ ได้แก่ ทางการทหาร จัดระเบียบความมั่นคงชายแดน การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ทั้งนี้เชื่อว่าการเลือกพรรคสีขาวติดตลาดแล้วไม่เกิน 2 อาทิตย์จะเห็นภาพชัดว่าเทาจะเลื่อนหายไปและเป็นการสู้ด้วย “ขาวกับขาว” และสุดท้ายหากฝ่ายขาวได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินผลจะออกมาเป็นสีขาว หากฝ่ายสีเทาเข้ามาบริหารก็จะกลายเป็นสีดําและนําไปสู่รัฐล้มเหลว
ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย แม่ทัพเศรษฐกิจของพรรคไทยสร้างไทยขึ้นเวทีพูดกับผู้สมัครสส.ของพรรค เปรียบเทียบว่า คนจะซื้อของเขาไม่ได้ซื้อเพราะว่ามันคืออะไร เพราะคนจะซื้อของจะซื้อเพราะพวกเราทำมันทำไม เหตุใดเราถึงมาเป็นผู้สมัครของพรรคไทยสร้างไทย คนจะซื้อเราก็ต่อเมื่อเขารู้ว่า Purpose หรือวัตถุประสงค์ โดยบอกกับผู้สมัครสส.ของพรรคว่าทุกคนต้องมีวัตถุประสงค์ ซึ่งเข็มใหญ่ของพรรค “ไม่เทา สร้างประเทศใหม่” แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้สมัครควรทราบว่าวัตถุประสงค์ของตัวเองคืออะไร โดยยกตัวอย่างตนเองมีความฝันว่าประเทศไทยต้องออกไปยืนคู่กับเกาหลีใต้และประเทศต่างๆ ในโลกอย่างมีศักดิ์ศรี และเราก็ทำได้ในช่วงหนึ่ง และเราก็โดนลดลงมาจนถึงวันนี้
พร้อมกับบอกว่าพรรคของเรากำลังจะเปลี่ยนประเทศไทยให้เป็นสีขาว วัตถุประสงค์ของพรรคและทุกคนในพรรคต้องชัดเจน โดยมีการหยิบปากกายี่ห้อหนึ่งขึ้นมาเปรียบเปรยว่ามีสโลแกนเปลี่ยนโลกด้วยธุรกิจ เช่นเดียวกับพรรคไทยสร้างไทยที่ไม่ได้บอกว่าหากคนในพรรคได้เป็นสส.จะไปเปลี่ยนประเทศไทยในวันนี้
นอกจากนี้ยังมีการย้ำถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับประเทศไทย ซึ่งตนมองว่าการจะทำให้สำเร็จต้องมีทั้งความมุ่งมั่นและอุดมการณ์ ซึ่งหากสำเร็จสิ่งที่ทำจะเป็นสมองให้กับประเทศไทยในอนาคต
โดยมีช่วงหนึ่งที่เจ้าตัวได้เล่าว่า "เกลียดเรื่องคอร์รัปชั่นมาก" โดยมีการหยิบยกเพลงหนักแผ่นดิน ย้อนเล่าถึงรากของปัญหาประเทศไทยคือการคอร์รัปชั่น ที่เจอตั้งแต่เด็ก มาปัจจุบันปัญหาคอร์รัปชั่นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ที่มากกว่านักการเมือง และหน่วยงานราชการ โดยมีการยกตัวอย่างทัวร์จีนที่มาไทย ไกด์เล่าให้นักท่องเที่ยวฟังว่า หากรถทัวร์โดนตำรวจจับคนขับจ่ายตังค์ให้ตำรวจจราจร แล้วก็สามารถขับรถผ่านไปได้ ตนมองว่าบ้านเราดูเรื่องผิดปกติเป็นปกติ ตนจึงอยากให้ประชาชนบอกกันว่าวันนี้ประเทศไทยผิดปกติ และตนมองว่าการคอร์รัปชั่นลามถึงประเทศไทนด้านลบ อาจถึงขั้นยึดสภาไทย ทำให้คนไทยแย่แน่นอน สิ่งที่ตนอยากบอก "รับเงินหมา กากสร้างไทย" หรืออะไรก็ตาม ซึ่งตนอยากบอกชาวบ้านว่าการรับเงินเขามันเป็นเงินบาป ตนเคยบวชและปฏิบัติธรรมมา ตนรู้ว่าสิ่งเหล่านี้กรรมมันคืออะไร ซึ่งวันนี้ตนมองว่าที่ประเทศไทนเป็นแบบนี้ก็เพราะกรรมของประเทศด้วย แต่มันจะแก้ได้ ก็ด้วยความมุ่งมั่นของพวกเรา เพราะพวกเราคือสีขาว ทิ้งท้ายถึงการรับเงินเป็นเงินบาป และยิ่งถ้าคุณรับเงินเขาและกากให้เขา นั่นคือทำบาปกับประเทศอย่างมหาศาล คุณจะทำให้ลูกหลานตกนรกทั้งเป็น ซึ่งวันนี้การเมืองไทยต่อสู้กันระหว่างดำกับขาว เพราะฉะนั้นเรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องห่วง เพราะตนมีโมเดลทะลุถึง 15 ปีของประเทศไทย
พร้อมทั้งเปิดแผน Restart ประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงการทำงานที่ต้องเริ่มจากเป้าหมายที่ชัดเจนคือการคืนศักดิ์ศรีให้คนไทย พร้อมนำประสบการณ์จากภาคธุรกิจระดับโลกมาพิสูจน์ว่าคนไทยมีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมระดับสูงได้เอง โดยชูนโยบายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะหรือขอนแก่นโมเดลเป็นต้นแบบการพัฒนาที่พึ่งพาตนเองได้โดยไม่ต้องรอพึ่งพางบประมาณส่วนกลางเพียงอย่างเดียว เพื่อมุ่งแก้ปัญหาหนี้สินและเพิ่มรายได้ให้ประชาชนใน 7 ด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอแนวคิด Mar Is My ซึ่งเป็นสมุดปกขาวรวบรวมนโยบายขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคต เพื่อเปิดโอกาสให้คนตัวเล็กและภาคธุรกิจ SME เข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียม ผ่านสองกลไกสำคัญคือ Tokenize Thailand ที่ใช้เทคโนโลยีโทเคนสร้างมูลค่าใหม่ให้ทรัพย์สินและสินค้าเกษตรในตลาดโลก และ Automate Thailand ที่นำระบบอัตโนมัติมาสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อแก้ปัญหาแรงงานและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยยืนยันว่าพรรคไม่ได้เน้นนโยบายประชานิยมแบบแจกเงิน แต่เป็นการแจกโอกาสและการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้อย่างยั่งยืน
Advertisement
