Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ครม.ทบทวนมติ 5 ส.ค.เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทยเขมร

ครม.ทบทวนมติ 5 ส.ค.เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทยเขมร

23 ธ.ค. 68
15:18 น.
แชร์

ครม. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรี 5 สิงหาคม 68 ขอความเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา

วันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 501 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายสิริงพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบการใช้เงินเยียวยาที่เหลือจากกรอบวงเงินตามหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา เพื่อให้สามารถจ่ายให้กับผู้ได้รับผลกระทบฯ จากเดิม คือ วันที่ 16 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2568 เป็น ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 จนกว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

2. เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสามารถขอเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่อเยียวยาประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามกรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 โดยให้กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยรับผิดชอบและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับดำเนินการเยียวยาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับผลกระทบ และให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยรับผิดชอบและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับดำเนินการเยียวยาประชาชน

3. เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมกรอบวงเงินที่ต้องการได้รับการจัดสรรสำหรับเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบฯ เพิ่มเติม เสนอให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติ ครม. เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2568 เรื่อง ขอความเห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ได้เห็นชอบหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา นับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ หากมีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม ให้หน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป

นอกจากนี้ ได้เห็นชอบกรอบอัตราเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา และเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (วันที่ 16 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2568) จำนวน 404,600,000 บาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นหน่วยรับผิดชอบและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับดำเนินการเยียวยาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับผลกระทบ และให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยรับผิดชอบและเป็นหน่วยเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับดำเนินการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2568 ยังคงมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดเป็นระยะ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2568 ได้เกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาในพื้นที่บริเวณฐานภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา มีความรุนแรงขึ้น และเกิดการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันได้ปรากฏการขยายพื้นที่แนวการสู้รบออกไปในวงกว้าง ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ 7 จังหวัดตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา และส่งผลให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 20 นาย

และประชาชนเสียชีวิตจากการปะทะฯ จำนวน 1 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2568) ดังนั้น สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จึงประเมินว่าสถานการณ์ความขัดแย้งและการปะทะตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ยังคงมีความรุนแรงและมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อบานปลายจนส่งผลกระทบในวงกว้างและอาจเพิ่มระดับความรุนแรง ด้วยอาวุธสนับสนุน อาทิ ปืนใหญ่ปืน ค. เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง (BM – 21) หรือการใช้อาวุธที่มีศักยภาพสูงขึ้น อาทิ เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง PHL- 03 นอกจากนี้ ยังมีข้อห่วงกังวลกรณีการเสริมสร้างขีดความสามารถทางด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่องและโดรนพลีชีพของกัมพูชา

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 สำนักงานฯ ได้จัดการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 16/2568 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ไทย - กัมพูชา และการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา โดยมีมติมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เร่งรัดเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งจากประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐตามหลักเกณฑ์ให้เงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีเหตุการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชาและกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ โดยหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติม ให้หน่วยงานขอรับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ การทบทวนมติคณะรัฐมนตรี จะช่วยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการตามกระบวนการเยียวยาต่อประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล

Advertisement

แชร์
ครม.ทบทวนมติ 5 ส.ค.เห็นชอบมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบชายแดนไทยเขมร