
สถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง หลังจากทหารกัมพูชาใช้อาวุธโจมตีฝ่ายไทย เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2568 บริเวณพื้นที่ ภูผาเหล็ก–พลาญหินแปดก้อน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายเกิดการปะทะในหลายพื้นที่ ทหารไทยบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายนาย
สถานการณ์ลามดุเดือดไปตลอดแนวชายแดน รวมถึงฝั่งจังหวัดจันทบุรีและตราด
ล่าสุดกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราดออกประกาศก เรื่อง ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด
ระบุว่า ด้วยพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ กำหนดให้อำนาจฝ่ายทหารในเขตพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อให้เกิดความมีเสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัย เกิดความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ และรอดพ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกอาณาจักร เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติ และบูรณภาพแห่งดินแดนตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินสิ่งของประชาชนชาวไทย อาศัยอำนาจตามมาตรา ๑๑ (๖) แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ จึงกำหนดมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อย ดังต่อไปนี้
๑. ห้ามบุคคลออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลา ๐๔.๐๐ - ๑๘.๐๐ โมงเช้า ในพื้นที่จังหวัดตราด เฉพาะอำเภอคลองใหญ่ อำเภอเกาะช้าง อำเภอแหลมงอบ อำเภอเมืองตราด กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่
๒. ใช้มาตรการทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ อย่างเคร่งครัด อำนาจให้ครอบคลุมถึงการควบคุมพื้นที่ การควบคุมบุคคล การตรวจค้น ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ หรือกระทบต่อความมั่นคง
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕
พลเรือโท (ลายเซ็น) (อนันต์ ทรัพย์วรชัย) ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด
Advertisement