
วันนีั (12 ธันวาคม 2568) ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นำโดย พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลอากาศเอก ประภาส สอนใจดี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ, และผู้เกี่ยวข้องร่วม แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยพลอากาศเอกประภาส เปิดเผยว่า แม้รัฐบาล จะประกาศยุบสภา แต่การปฏิบัติการทางทหาร เพื่อปกป้องดินแดน ยังคงดำเนินการต่อไปอย่างเต็มที่ โดยยังคงยึดหลักการป้องกันตัวเอง เพื่อปกป้องทรัพย์สินและพลเรือนที่ได้รับผลกระทบ
ด้านพลเรือตรีสุรสันต์ เปิดเผยไทม์ไลน์สถานการณ์ของวันที่ 12 ธันวาคม โดยระบุว่าเมื่อวานที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานไปยังประเทศกัมพูชา ขอความร่วมมือให้พลเรือนไทย ซึ่งติดค้างอยู่ในเมืองปอยเปต เดินทางผ่านข้ามแดนกลับมายังประเทศไทยได้ เบื้องต้นพบว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงเพราะยังคงมีคนไทยจำนวนมากติดค้างอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว และ ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้เพราะกัมพูชาไม่อนุญาต แต่กระทรวงการต่างประเทศก็ไม่ลดละความพยายามในการที่จะประสานไปยังกัมพูชา เพื่อยินยอมให้คนไทยที่ติดค้างอยู่ทั้งหมดกลับประเทศได้
โดยเมื่อเวลา 17.00 น. เมื่อวาน (11ธ.ค.68) ที่ผ่านมา กองทัพกัมพูชาก็ได้ระดมยิงอาวุธเข้ามาในฝ่ายไทย โดยเฉพาะที่บริเวณ จ.สระแก้ว ทำให้กองกำลังเจ้าหน้าที่ของไทยต้องดำเนินการตามยุทธวิธีตลอดทั้งคืนและเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กองทัพเรือก็ได้เปิดปฏิบัติการทำลายฐานควบคุมสั่งการของกัมพูชา
พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานของกองทัพบก ล่าสุด เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถยึดคืนพื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี จ.สุรินทร์ แต่ขณะนี้ยังพบการพยายามโจมตีของฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ส่วนจุดที่อยู่ระหว่างการใช้กำลังเพื่อเข้าควบคุม คือ ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี และ ช่องคนา จ.สุรินทร์ ซึ่งปัจจุบันสามารถควบคุมพื้นที่ทั้ง 2 แห่งได้บางส่วนแล้ว ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ โดยจุดนี้แม้ว่าทางการไทยจะทำลายการโจมตีและฐานทหารกัมพูชาได้จำนวนมาก แต่ทหารฝ่ายไทยอยู่ระหว่างเข้าปฏิบัติการ เพื่อควบคุมพื้นที่ให้ได้ทั้งหมด เนื่องจากจุดดังกล่าวมีสภาพภูมิประเทศที่เป็นอุปสรรค บ้านคลองแผง จ.สระแก้ว ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 68 ทหารไทยสามารถยึดพื้นที่ได้แล้ว แต่ทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธ จรวด BM-21 ยิงตอบโต้ ทหารไทยจึงปรับแนววางกำลัง ทำให้ทหารกัมพูชาใช้โอกาสดังกล่าวในการยึดพื้นที่คืน แต่กองกำลังบูรพา ก็อยู่ระหว่างเข้าควบคุมพื้นที่คืน
สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับทหารฝ่ายกัมพูชา หลังทางการไทยไปใช้อาวุธทุกรูปแบบ เบื้องต้น ประเมินว่าอาจจะมีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 165 คน
นาวาเอกนรา คุณโฑถม ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า หลัง F-16 ได้โจมตีเป้าหมาย บ้าน 3 หลังใน จ.ตราด ซึ่งจากการตรวจสอบจุดดังกล่าว ก็พบว่ามีการขุดคูเรต หรือ การดัดแปลงภูมิประเทศเพื่อเป็นฐานที่มั่นในการปฏิบัติการรบ
พลเรือตรีสุรสันต์ ยืนยันว่า แม้รัฐบาลจะประกาศยุบสภา แต่ก็ไม่มีผลต่ออำนาจของทหารในการ ปฏิบัติการหรือสั่งการเนื่องจากมีพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551
ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติและโครงสร้างที่ชัดเจน ซึ่งอำนาจส่วนนี้ไม่เกี่ยวโยงกับอำนาจทางการเมือง และทหารยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาอำนาจอธิปไตยของประเทศไทย
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทางการไทยได้ใช้เครื่องบินรบ F-16 โจมตีเป้าหมายใกล้กับโรงเรียนนั้น พลอากาศเอกประภาส ระบุว่าจากการตรวจสอบภาพที่ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ซึ่งทางการกัมพูชากล่าวอ้างถึง หากพิจารณาตามหลักความจริงไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ และข้อมูลดังกล่าวก็ไม่เป็นความจริง โดยอาจเป็นความพยายามที่จะปลุกปั่นข้อมูลเท็จของฝั่งกัมพูชา เพราะทางการไทยยังคงยึดหลักการเลือกโจมตีเป้าหมาย ที่จะลดทอนขีดความสามารถทางการทหารของกัมพูชาและเปิดโอกาสให้ฝั่งไทยสามารถเข้าปฏิบัติการได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยหากมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกเป้าหมายโจมตีใกล้กับพื้นที่ชุมชน ทหารก็จะเลือกใช้อาวุธที่มีความแม่นยำเพื่อลดผลกระทบกับพลเรือนในวงกว้าง
สำหรับการให้ความช่วยเหลือคนไทยซึ่งยังตกค้างอยู่ในเมืองปอยเปตกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการ ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยอมรับว่า แม้จะมีความตึงเครียดของสถานการณ์ตามแนวชายแดน แต่กระทรวงการต่างประเทศยังคงเดินหน้าที่จะประสานกับทางการกัมพูชา เพื่อขอให้ปล่อยตัวผู้ที่ติดค้างทั้งหมดกลับประเทศในช่องทางต่าง ๆ อย่างเต็มที่
Advertisement