Logo site Amarintv 34HD
อมรินทร์ทีวีแจกใหญ่ส่งท้ายปี ดูทั้งวันแจกทุกวันLogo Seagame2025Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"ไชยชนก" แจงกมธ.มั่นคงฯเรื่องสแกมเมอร์ โยนคนร่วมเฟรมเบนสมิธแจงเอง

"ไชยชนก" แจงกมธ.มั่นคงฯเรื่องสแกมเมอร์ โยนคนร่วมเฟรมเบนสมิธแจงเอง

11 ธ.ค. 68
15:18 น.
แชร์

"ไชยชนก" เข้าแจงกมธ.มั่นคงฯ ปมภาพถ่ายเบนสมิธ-รมต.ลงนาม MOUบ.สิงคโปร์ รับตกใจรู้เรื่องผ่านข่าว ขอให้กมธ.เชิญอดีตรมต.อีดีมาแจงเอง หวังไม่ใช่เกมการเมือง

คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ พร้อมด้วยนายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องปัญหาสแกมเมอร์ โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อในฐานะประธานได้แจ้งในที่ประชุมว่าวันที่ 15 ธ.ค. ทางกรรมาธิการจะเดินทางไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยวันนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ปปง. มาชี้แจงแทน เราใช้เวลาในการประชุมเรื่องสแกมเมอร์มาอย่างยาวนานแค่เฉพาะเครือข่ายนี้ วันนี้เราอยากให้น้ำหนักไปที่การทำ MOU ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและบริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่หน่วยงานมีความคืบหน้ามาก

ด้านนายไชยชนก กล่าวว่า ตนมาด้วยความยินดีและคาดหวังว่าการมาร่วมประชุมครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายที่ดี นำไปซึ่งการหาแนวทางจัดการกระบวนการสแกมเมอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และหวังว่าการเชิญมาครั้งนี้จะไม่ใช่เกมการเมืองและจากที่คุยกันมาเห็นว่าไม่ใช่ในรูปแบบนั้น

กรณีบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างกระทรวงดีอี และ บริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore  ก็ได้มีการเปิดเผยศูนย์สาธารณชนไปพอสมควรแล้ว โดนจุดเริ่มต้นจากการสืบค้นข้อมูลของกระทรวง DE พบว่ามีการลงนามร่วมกันในวันที่ 27 มีนาคม 2567 หลังจากนั้นในเดือนเมษายนมีการตั้งคณะทำงาน ซึ่งไม่มีการประชุมอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ต่อมาในเดือนเดียวกันบริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore มีการตั้งบริษัท TIDC Group และมีการตั้งบริษัทย่อยอีก 3 บริษัท แต่ปรากฏว่าไม่มีการทำกิจกรรมร่วมกันกับทางกระทรวง ตามที่มีการลงนามไว้ใน MOU จนกระทั่งวันที่ 28-30 ตุลาคม และได้รับอีเมลจากบริษัทที่ปรึกษาของบริษัท Prime Opportunity Fund VCC Singapore และ บริษัท TIDC Group เพื่อขอความร่วมมือสนับสนุนการใช้โลโก้ และขอโปรโมทการทำงานร่วมกัน ระหว่างกระทรวงกับบริษัทTIDC Group

หลังจากนั้นในวันที่ 28 ตุลาคมถึงธันวาคม มีการเอาโลโก้ของกระทรวงDE และ NT บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ ไปแปะไว้บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัท TIDC Group และมีหน่วยงานอื่น ๆ ด้วย ซึ่งบริษัทเหล่านี้ทั้งหมดตนได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมว่ามีการทำกิจกรรมใด ๆ ร่วมกับบริษัท TIDC Group หรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน และ บริษัทระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ แต่ไม่พบกิจกรรมใด ๆ

ต่อมาในเดือนมกราคม 2568 TIDC World Verse ติดต่อกระทรวงขอทำกิจกรรมจัดเก็บ ข้อมูลผ่านทาง หรือสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เพื่อ ขอเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแต่ไม่ได้รับอนุญาตต่อมาเดือนกุมภาพันธ์ 2568 บริษัทเดิมก็ได้ติดต่อเข้ามาที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ซึ่งก็ไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ตนได้สอบถามไปยังหน่วยงานนี้ ก็พบว่าหลายหน่วยงานไม่ทราบว่ามีการลงนาม MOU กับบริษัท TIDC และไม่มีหนังสือเวียนแจ้งอย่างเป็นทางการ

ต่อมามีการเก็บข้อมูลสแกนม่านตาตามที่ปรากฏตามข่าว ทางกระทรวงได้มีการตรวจสอบไปยังสอบสวนกลางและ PDPC พบว่าการดำเนินการไม่เป็นไปตามที่บริษัท TIDC World Verse ได้ให้ข้อมูลกับกระทรวงไว้ โดยระบุว่าจะไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแต่อย่างใดแต่เป็นการยืนยันความเป็นมนุษย์เท่านั้น แต่พอตรวจสอบแล้วพบว่า มีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยการส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเข้าไปให้บริษัท TIDC World Verse สแกนม่านตา และเมื่อตรวจสอบพบว่ามีการบันทึกข้อมูลเอาไว้ ซึ่งหากเป็นไปตามที่เขาขออนุญาตนั้นจะต้องไม่บันทึกข้อมูลไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าบริษัทมีการเก็บข้อมูลอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่แจ้งกระทรวงและมีการเกณฑ์ประชาชนเข้ามา สแกนม่านตาโดยเสนอเงินเป็นค่าตอบแทนในลักษณะสกุลเงิน World coin ที่จะได้เป็นรายเดือน และไม่ได้แจ้งรายละเอียดให้ประชาชนว่าจะถูกเก็บข้อมูลส่วนบุคคล และประเภทเงินที่จะได้รับ ทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด เ ซึ่งประชาชนที่เข้ามาสแกนม่านตา ไม่ได้เป็นผู้ที่มีศักยภาพในการใช้สกุลเงินในโลกออนไลน์ เมื่อประชาชนสแกนม่านตาเสร็จแล้ว จะมีคนนำเครื่องมือนำมือถือ ของผู้ที่ถูกสแกนม่านตา ไปสแกนลงทะเบียน นั่นหมายความว่า บริษัทนี้จะมีบัญชีออนไลน์ของผู้ที่ถูกสแกนม่านตาทุกคนจำนวน 1.2 ล้านคน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า จากที่รัฐมนตรีได้มีการชี้แจงก็อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการอยู่แล้วโดยเฉพาะการใช้เงินสกุลเวิลด์คอยน์ ซึ่ง กลต.ชี้แจงไปแล้ว จนนำไปสู่การดำเนินการลบข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในบริษัทดังกล่าวแล้ว แต่ก็ต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าลบจริงหรือไม่ และกรณีที่บริษัทได้ทำการสแกนม่านตานี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายยิม เลียก หรือไม่ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ เพราะมีหลายเครือข่ายที่ปะปนกันอยู่

ส่วนเรื่องภาพถ่ายการลงนาม MOU ที่ปรากฏขึ้นนั้น นายไชยชนก กล่าวว่า ตนก็รู้สึกตกใจและได้สอบถามไปตั้งแต่วันแรก ขณะที่ตนก็ทราบเรื่องข้อมูล MOU ผ่านข่าวเช่นกัน พอรู้ก็ตกใจ จึงได้ทำการตรวจสอบ ไปยังกระทรวงและในหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีคนรับทราบถึงการลงนาม MOU นี้ ขอบคุณสำนักข่าวอิศราที่หาภาพนี้มาได้ จนทำให้ตนได้หาข้อมูลมากขึ้น และนำมาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ

ส่วนภาพที่ออกมาเหมาะสมหรือไม่นั้นตนไม่ได้อยู่ในสถานการณ์นั้น ไม่อาจทราบได้ว่านายเบนสมิธ และ รัฐมนตรีกระทรวง DE คนก่อนไปอยู่ร่วมกันในจุดนั้นได้อย่างไรขอให้ทางกรรมาธิการเชิญบุคคลดังกล่าวมาชี้แจง เพราะตนก็สงสัยเช่นกัน

นายไชยชนก ชี้แจงกรณีภาพถ่ายการลงนาม MOU กับบริษริษัทสิงคโปร์ ซึ่งมีนายประเสริฐ จันทรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ และร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ และนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ร่วมเป็นพยาน ว่า ตนต้องขอขอบคุณสำนักข่าวอิศรา เพราะพอทราบเรื่องก็ได้สั่งให้ปลัดกระทรวงตรวจสอบภายในกระทรวง และประสานกับทางกระทรวงการต่างประเทศ

ซึ่งปลัดกระทรวงได้รายงานว่าหลังจากลงนามไปแล้วไม่ได้มีกิจกรรมใด ๆ ร่วมกันแต่อย่างใด ตนจึงไปตรวจสอบด้วยตัวเอง จนกระทั่งไปดูภาพกล้องวงจรปิดภายในอาคารของกระทรวงและดูระบบต่าง ๆ ที่พอจะหาหลักฐานได้ จนตรวจสอบเจอข้อมูลเพิ่มขึ้นจากภาพถ่าย ที่มีเจ้าหน้าที่บันทึกเป็นอัลบั้ม ซึ่งหากจะถามข้อมูลว่าใครเชิญมา ใครรู้จักกับใครตนไม่ทราบเพราะไม่ได้อยู่จุดนั้นอาจจะต้องไปสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น

ส่วนตอนนี้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่รู้เรื่องนี้แล้ว ซึ่งหนังสือที่ลงนามจะมีผลในวันนี้ ตอนแรกตนจะไปนั่งเป็นประธานตรวจสอบเองแต่ มีคำแนะนำว่าไม่เหมาะสม เพราะต้องมีการตรวจสอบทางด้านวินัยจำเป็นต้องหาคนนอกเข้ามานั่งตรวจสอบ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยตนเน้นย้ำว่าจะต้องตรวจสอบข้อมูลให้เจอเพื่อไม่ให้เกิดความหวาดระแวงในการทำงาน ซึ่งยืนยันว่าจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

เมื่อถามว่าได้สอบถามเรื่องนี้กับร้อยเอกธรรมนัสหรือไม่ นายไชยชนก กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการสอบถามแต่ถ้าหากเจอก็จะถามว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร แต่ท้ายที่สุดอยู่ที่แต่ละคนจะออกมาชี้แจง อีกทั้งการไปตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในภาพตนไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบได้ และเชื่อว่าแต่ละคนที่มีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคงมีเหตุผลที่แจ้งได้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมกว่า

Advertisement

แชร์
"ไชยชนก" แจงกมธ.มั่นคงฯเรื่องสแกมเมอร์ โยนคนร่วมเฟรมเบนสมิธแจงเอง