
จากกรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สิ่งสำคัญคือการตั้งโจทย์ให้ตรงกันว่าจุดจบของเรื่องนี้ จะไปอยู่ที่ตรงไหน ด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ทั้งประชาชน และทหารที่เกิดความสูญเสีย ทุกคนรู้สึกเสียใจและเป็นสิ่งที่พวกเราไม่อยากให้เกิดเกิดขึ้น และอยากให้สถานการณ์จบโดยเร็ว
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า ชาติต้องมาก่อน
เรามีเพื่อนบ้านอย่างประเทศกัมพูชา ที่เป็นเผด็จการครอบครองโดยฮุนเซนมายาวนาน
นานจนคิดว่าตัวเองเป็นเสมือน
“ไก่ที่ขันทุกเช้า พระอาทิตย์ถึงจะขึ้น”
หากไก่ไม่ขัน พระอาทิตย์ก็จะไม่ขึ้น
เมื่อ “ฮุนเซน” ฝืนธรรมชาติ ปกครองคนเขมรอย่างล้าหลังยากจน
แต่ตัวเอง ลูกหลาน บริวารเสวยสุข มีทรัพย์สินเงินทองบารมีล้นหลาม
เป็นระบอบเผด็จการสมบูรณ์แบบ ที่ทุกอย่างสั่งการด้วยคนคนเดียว
ภาวะจิตวิกลจริต ตื่นตระหนกว่าอำนาจจะหลุดมือ จึงทำทุกวิถีทางทั้งบนดินโดยการทูต ใต้ดินโดยการแบล็กเมลล์ อัดเสียง ปล่อยรูป ปล่อยคลิป
ใช้อาวุธยิงก่อน แล้วทำทีว่าถูกรุกรานจากประเทศใหญ่กว่า
ในเมื่อประเทศไทยไม่สามารถลบประเทศกัมพูชาออกจากแผนที่ได้
เสมือนคนที่มีเพื่อนบ้านติดกันสันดานแย่ แต่ก็ต้องทนอยู่กันต่อไป
ไม่ว่าจะเจรจาพาทีกันกี่ครั้ง สักพักก็กลับไปเหมือนเดิม
การรบเพื่อยึดดินแดน แล้วจึงค่อยไปเจรจา จะเป็นการได้เปรียบมากกว่า
อย่าไปคิดว่าเป็นการรังแกประเทศที่เล็กกว่า
ในเมื่อประเทศเล็กจริง แต่ทำตัวเกเร ก็ต้องเปิดสงครามสั่งสอน
ฮุนเซนคิดว่าไทยเปลี่ยนผู้นำรัฐบาลบ่อย แต่กัมพูชาไม่เคยเปลี่ยนเลยตลอดระยะเวลา 40 ปี
นี่จึงเป็นโอกาส “End Game“ ปิดระบอบฮุนเซนที่แท้จริงของไทย
แต่หากคนไทยมีความคิดแตกแยก ไม่รวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในขณะนี้
ฮุนเซนรู้ว่านักการเมืองไทยมักทะเลาะกันเองเพื่อหาหนทางขึ้นสู่อำนาจ
แต่กัมพูชาใช้วิธีกำจัดนักการเมืองที่คิดต่าง ไม่ตายก็ต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
จุดอ่อนนี้คนอย่างฮุนเซนที่ครองอำนาจมายาวนานจึงมองไทยทะลุปรุโปร่ง
สิ่งที่คุณเท้งพูดจึงมาในวาระที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
เรียกว่า “เข้าทางฮุนเซน”
หลังเรื่องนี้จบ คุณเท้งจะไปพูดเอาเท่ห์ เสนอไอเดียบรรเจิดเพื่อโน้มน้าวหาเสียงมันก็อีกเรื่อง ทำได้ แต่ย่อมไม่ใช่ตอนนี้ที่กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน
ผมติงเพราะคุณเท้งแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ ไม่มีประสบการณ์ แม้โลกเปลี่ยนไปจริง
แต่ระบอบฮุนเซนที่ล้าหลังยังกุมอำนาจอยู่ และหวังจะอยู่ต่อไป
หากคิดจะรับมือกับศัตรู ต้องรู้จักศัตรูอย่าง "จิ้งจอกเฒ่าฮุนเซน" ให้ดีเสียก่อน
รูปถ่าย คลิป หรือวิธีการใต้ดินต่างๆ ที่เผด็จการอย่างฮุนเซนใช้นั้น ไม่มีในหลักสากลของการเจรจา
หรือไม่มีผู้นำที่ไหนทำกัน ยกเว้น “จอมสแกมเมอร์โรคจิตฮุนเซน”
คุณเท้งอาจหวังดี แต่ต้องตระหนักไว้ว่า
"ชีวิต คือ ความจริง
ความจริง คือ ประสบการณ์
ประสบการณ์ คือ ความรู้
ความรู้ คือ ความฉลาด"
ไม่มีใครเรียนลัดข้ามขั้นตอนได้
หากคุณเท้งไม่มีประสบการณ์ เพราะไม่ได้เรียนรู้ความจริงจากสันดานเผด็จการของฮุนเซนให้เพียงพอ
จะไม่สามารถมีความฉลาดในการต่อสู้ หรือแม้แต่เจรจาความกับคนโรคจิตอย่างฮุนเซนได้
หลักการของเรื่องนี้ง่ายๆ คือ "ชาติต้องมาก่อน"
คิดแล้วก็กลุ้มเหมือนกัน หากพรรคประชาชนขึ้นมาเป็นรัฐบาลแล้วได้ผู้นำที่ไม่มีประสบการณ์
ทำตัวนุ่มนิ่มแบบที่ไม่มีฝ่ายค้านไหนในโลกเขาทำกัน
โหวตสนับสนุนให้คนอื่นเป็นรัฐบาล แต่ตัวเองยอมไปเป็นฝ่ายค้านนั่งวิพากษ์วิจารณ์คนที่ตัวเองเลือกมากับมือ
แทนที่จะไปเป็นรัฐบาลเสียเอง
แบบนี้ก็ไม่มีใครทำในโลก
แล้วหากกัมพูชายิงมา เราไม่ตอบโต้ แต่ยิ้มต้อนรับรอเจรจา ในขณะที่กัมพูชายึดดินแดนของเราไปเรื่อยๆ
แล้วเราจะรอเจรจาหาพระแสงด้ามง้าวอะไร?
ถามสั้นๆ แบบนี้ คุณเท้งคงตอบได้
ผู้นำต้องเด็ดขาด เมื่อศัตรูมาเขกกระบาลไม่ใช่ยังยิ้มเหมือนไม่มีชั้นเชิง
นี่คือสิ่งที่ตอบคำถามพรรคประชาชนว่า
"ประเทศมีทหารไว้ทำไม?"
Advertisement