
วันนี้ ( 9 ธันวาคม 2568) ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ลาราชการเพื่อไปร่วมเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกพรรค พร้อมกับให้สัมภาษณ์ถึงการหารือกันภายในพรรคภูมิใจไทย ว่า วันนี้เราประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในเรื่องของทิศทาง และท่าทีของพรรคในการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ว่าด้วยเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะหนุนให้ผ่านวาระ 2 เพื่อไปสู่วาระ 3 หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็เป็นไปตาม MOA
เมื่อถามว่าทาง สส. มีการสอบถามถึงเรื่องการยุบสภาแล้วหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ตนบอกให้เตรียมพร้อม จริงๆ วันนี้ไม่ต้องมานั่งพูดคุยเรื่องยุบสภาอะไรอะไรแล้ว เพราะใกล้ถึงเดือนมกราคมเข้าไปทุกที แต่ถ้าหากมาถามกันในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมก็อาจจะรู้สึกว่ามีผลอะไรมากมาย ก็ให้เตรียมพร้อมการเลือกตั้งไว้ดีที่สุด
ส่วนที่ทางนายกรัฐมนตรีบอกว่าให้คาดเข็มขัดไว้วันที่ 12 ธันวาคมนั้นจะยังไม่มี นายอนุทิน เปิดเผยว่า ตนก็มีหลักของตน ถ้าจะยุบสภา ซึ่งอำนาจการทูลเกล้าฯ พ.ร.ก.ยุบสภา ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้นส่วนนี้ตนก็มีหลักเกณฑ์ของตน สงวนไว้เป็นการตัดสินใจของตนแต่เพียงผู้เดียว
เมื่อถามว่าจะต้องดูท่าทีพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่าจะยื่นซักฟอกหรือเปล่า นายอนุทิน กล่าวว่า ก็มีหลายอย่างประกอบกัน
เมื่อถามว่าประเด็นเขมรเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะพิจารณายื่นยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า เรื่องของการปกป้องอธิปไตยของชาติ รัฐบาลได้ให้ความร่วมมือ ให้การสนับสนุน และเชื่อมั่นในกองทัพไทยอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นตนไม่เคยคิดเอาเรื่องความขัดแย้งระหว่างประเทศมาเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองในสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของนายกรัฐมนตรีที่สำคัญไปจนถึงช่วงเดือนมกราคมมีอะไรบ้าง นายอนุทิน ระบุว่า เราก็อยากเห็นรัฐธรรมนูญได้รับการแก้ไข ถ้าทุกพรรคเห็นความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยทำโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกรัฐสภาที่มาจากประชาชน 100% หากทุกคนเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีความสอดคล้อง มีความศักดิ์สิทธิ์ และเกิดขึ้นจากตัวแทนของปวงชนชาวไทย ก็ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญของปวงชนชาวไทยฉบับสมบูรณ์ ตนก็อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย แต่หากมีพรรคใดพรรคหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเห็นว่าเรื่องของการเล่นเกมทางการเมืองสำคัญกว่า การชวนชิงอะไรต่างๆสำคัญกว่า หรือการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองสำคัญกว่าการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือเรื่องของส่วนรวม พวกตนก็ไม่ปล่อยให้เกิดโอกาสเช่นนั้น
เมื่อถามว่าได้มีการคาดการณ์ไว้หรือไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 จะเกิดขึ้นภายในปีนี้หรือปีหน้า นายอนุทิน กล่าวว่า อ้นก็ทำตามกฎกติกา พรุ่งนี้ก็เริ่มประชุมแล้ว หากผ่านวาระ 2 ได้ ก็ต้องทิ้งไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ก็โหวตวาระ 3 ด้วยเงื่อนเวลาก็ต้องเป็นเดือนมกราคมอยู่แล้ว สำหรับตนจะเป็นต้นเดือน กลางเดือน หรือปลายเดือนก็ไม่มีความหมาย ส่วนเรื่องการทำคำถามทำประชามติก็อย่างที่ตนบอกว่าต้องเป็นความร่วมมือของสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกรัฐสภา พรรคภูมิใจไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว เพราะเรามีการลงนามเป็นลายลักษณ์อักษร หรือทำ MOA กับพรรคประชาชน และเราก็หวังว่าพรรคประชาชนจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ มาถึงจุดนี้แล้วไม่อยากให้ปล่อยโอกาส เพราะหากไม่มีในห้วงเวลานี้ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ประชาชนจะได้รับรัฐธรรมนูญที่สามารถพูดได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญของพวกเขา “ประชาชนที่หมายถึง People ไม่ใช่พรรค” และคำถามอะไรต่างๆก็อยู่ในกระบวนการอยู่แล้ว ทุกอย่างผ่านมาได้ด้วยดี กระบวนการต่างๆก็จะเป็นไปตามนั้น การกำหนดไทม์ไลน์และเงื่อนไขต่างๆ ก็ได้อยู่ในนโยบายที่รัฐบาลได้แถลงต่อรัฐสภาด้วย ทุกอย่างได้กำหนดไว้แล้ว แต่หากเขาไม่อยากให้อยู่ครบและไม่ให้เกิดรัฐธรรมนูญใหม่ ก็ต้องโทษคนที่ไปคิดเช่นนั้น พรรคประชาชนก็ต้องหาคำตอบจากฝ่ายที่ไม่ต้องการให้มีการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่าแม้จะมีสถานการณ์ตามแนวชายแดนมาทางนายกรัฐมนตรีก็จะไม่อยู่เกินวันที่ 31 มกราคม 2569 ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน คนละเรื่องกัน กองทัพมีแสงยานุภาพ มีนโยบาย มีการนำที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ตนก็ทำทุกอย่างในเวลาที่มีอยู่อย่างเต็มที่
นายอนุทิน กล่าวว่า หากตนยังเป็นรัฐบาลแบบเต็มรูปแบบ เราก็ไม่ทำอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่หากมีการยุบสภาแล้ว ไม่มีสภาพเป็นรัฐบาล เราก็ต้องรักษากฎกติกาของการเป็นรัฐบาลรักษาการ ช่วงชิงความได้เปรียบใดๆ ตนไม่ทำให้เกิดสิ่งเรานั้นแน่นอน ตนชอบ Fair Game ชอบการต่อสู้ที่มีความเป็นธรรม
Advertisement