
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า โดยระบุว่า วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ตนได้พบกับทุกคนอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา และ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ในที่นี้ซึ่งมีความสนิทสนมรักใคร่กันดีอยู่แล้ว ตนขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่าน
และในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขอยืนยันให้ความมั่นใจ คลายกังวลใจว่าตั้งแต่ตนเข้ามาทำงาน เป็นนายกรัฐมนตรีและบริหารราชการแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ตนได้รับความร่วมมือดียิ่งจากทุกท่านในฐานะหัวหน้าส่วนราชการไม่มีสิ่งใดที่ตนรู้สึกเคลือบแคลงใจหรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากแต่อย่างใด จึงขอขอบพระคุณ ณ ที่นี้ด้วย
วันนี้ถือว่าเป็นการประชุมที่ตนให้ความสำคัญเพราะท่านทั้งหลายคือหัวหน้าส่วนราชการคือผู้ที่จะต้องขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความต่อเนื่องไม่ว่าจะมีสถานการณ์ทางการเมืองใดใดเกิดขึ้น เวลารัฐบาลของตนขอกราบเรียนตามตรงว่าอยู่ในช่วงนับถอยหลังแล้ว เพราะมีภารกิจที่เข้ามาเพื่อดำเนินการทางการเมืองให้เรียบร้อย ก่อนจะคืนอำนาจสู่พี่น้องประชาชน ให้ได้ตัดสินใจ ที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา
ดังนั้นความสำคัญคือ ขอหัวหน้าราชการ คือต้องประคับประคองขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ทั้งรัฐบาลที่ผ่านมารวมถึงรัฐบาลของตน จึงขอให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ก่อนที่ตนจะยุบสภาซึ่งไม่นานหลังจากนี้แล้วเพียงแต่ยังทราบว่า วันไหนเวลาไหน แต่ย้ำว่าเต็มที่คือไม่เกิน 31 มกราคม แต่ท่าทางจะไม่ถึงมากกว่า
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า แต่ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ขอให้คำมั่นสัญญากับทุกท่านที่เป็นข้าราชการประจำและหัวหน้าส่วนข้าราชการ ว่าตนจากเคร่งครัดทั้งด้านมารยาท กฎระเบียบและสิ่งที่รัฐบาลรักษาการได้ถูกกำหนดไว้ให้ดำเนินการขอทุกคนไม่ต้องกังวลใดใดว่าตนจะทำสิ่งใดที่นอกเหนือจากสิ่งที่กำหนดไว้ทางกฎหมาย ทำเนียมและหลักปฏิบัติ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนทำให้เหมือนทุกขลาภ เพราะมีภารกิจมากมายและมีนโยบายมากมายที่ต้องได้รับการดำเนินการต่อไป เพื่อส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนก็ขอให้พวกท่านไม่ต้องแผ่วสิ่งที่ทำมา ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาไปแล้วก็ขอให้ดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อให้ตกไปถึงประชาชนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ สืบเนื่องปัญหาใหญ่ทั้งปัญหายาเสพติด ภัยพิบัติ การแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สแกมเมอร์ และเรื่องที่เรามีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้าน อย่างประเทศกัมพูชา ซึ่งเราจะต้องร่วมกันเดินหน้าต่อไปหยุดไม่ได้เพราะหากหยุดมันแพ้ทันที เราไม่มีทางเลือก เพราะฉะนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไป
สุดท้ายคือเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เราจะต้องดำเนินไป ในทิศทางที่ดีขึ้น เพื่อความเติบโตทางเศรษฐกิจเพิ่มรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน แต่มักมีสิ่งที่มาเป็นอุปสรรคที่ทำให้ความคืบหน้าเศรษฐกิจของประเทศเราไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเข้มแข็งและการจัดวางระบบของราชการฝ่ายประจำ ตนก็ไม่มีความกังวลใดใดว่าหากพวกท่านได้ร่วมมือกันบรรเทาอุปสรรคของประเทศนี้ ตนยังมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถนำพาให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแน่นอน
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ตนก็พร้อมที่จะให้ความสนับสนุนภารกิจของทุกท่านอย่างเต็มที่ และรัฐบาลของตนได้ทำการบริหารราชการแผ่นดินโดยยึดเรื่องความสุจริตโปร่งใสมีความรับผิดชอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน และมุ่งให้หน่วยงานของรัฐทุกระดับตั้งแต่ท้อง จนถึงส่วนกลางได้มีความสามัคคีและปฏิบัติงานในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่ด้านการใช้จ่ายงบประมาณต่างๆก็ต้องเน้นให้มีประสิทธิภาพ มีความรับผิดชอบและตรวจสอบได้ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการแนวทางนี้มาโดยตลอด
นอกจากนี้สิ่งที่ตนอยากย้ำอีกอย่างหนึ่ง คือขอให้ทุกคนมีความพร้อมในการทำงานไม่ต้องไปเกรงกลัวอำนาจหรืออิทธิพลใดใด ที่จะทำให้เราต้องทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายขัดรัฐธรรมนูญ ขอให้ความมั่นใจว่าท่านทั้งหลาย เป็นหลักของหน่วยงานที่ท่านรับผิดชอบ และทำให้ความพยายามใดใดก็ตามที่จะเป็นการตอบสนองทางการเมืองหรือการกระทำเพื่อเกิดประโยชน์กับกลุ่มคนในกลุ่มไม่ประสบผลสำเร็จ ตนขอเน้นย้ำว่าทุกท่านมาถึงตรงนี้กันแล้วต้องยึดถือความถูกต้องเป็นสำคัญ เพราะตนได้เห็นการกระทำที่ผ่านมาเกิดขึ้นในอดีตคือการใช้กลไกอำนาจไปในทางที่ไม่ชอบในการให้เกิดประโยชน์กับกลุ่มและคณะของตัวเองและใช้อำนาจรัฐในการกลั่นแกล้งผู้ที่คิดว่าเป็นคู่แข่งหรือขวางหรือเป็นอุปสรรคในการดำเนินการเพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมัยก่อนตนไม่ค่อยคิดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่เพราะไม่ต้องมารับผิดชอบสิ่งเหล่านี้ตนก็รับผิดชอบเฉพาะหน่วยงานที่ตนดูแลอยู่
แต่เมื่อมาอยู่ในสถานะนี้และต้องรับผิดชอบภาพรวมตนมีความมั่นใจว่าข้าราชการประจำทุกท่านยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลและความซื่อสัตย์สุจริต ความถูกต้องแล้วอำนาจใดใดก็ไม่ไม่สามารถทำให้ท่านกระทำความผิดได้ซึ่งที่ต้องเน้นเรื่องนี้เพราะทุกท่านได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของหน้าที่การงานแล้ว เป็นระดับ c11 กันหมดแล้ว ควรที่ได้รับการเชิดชูไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดจึงขอให้ทุกท่านมีความมั่นใจและร่วมมือกันเพราะการรับราชการต้องแข็งแกร่งแข็งแรงที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน
เพราะฉะนั้นใครที่เคยร่วมงานกับตนมา ก็จะทราบว่า ตนเป็นคนที่รักษากฎกติกาอย่างเต็มที่ไม่เคยที่จะไปก้าวล่วง ในสิ่งที่ชอบที่ควร และยังพร้อมที่จะสนับสนุนสิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารของข้าราชการอย่างเต็มความสามารถ และเมื่อมาถึงจุดนี้ก็มั่นใจว่าหากทุกคนมีความสามัคคีและยึดถือประโยชน์สูงสุดของประเทศ เราสามารถทำงานด้วยกันทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำและผลักดันให้เกิดพลังอย่างมหาศาลในการพัฒนาประเทศของเราได้อย่างแน่นอน
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาตนได้พบว่าถ้าเรื่องไหนก็ตามที่เราเห็นพ้องต้องการในระดับนโยบายทุกอย่างก็จะถูกดำเนินการด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เมื่อเราสนับสนุนซึ่งกันและกันก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องวิตกกังวล และตนก็เห็นชอบในการที่จะให้การอนุมัติ หากข้าราชการท่านกรองมาแล้วตนก็ไม่มีปัญหาเช่นเดียวกันในการที่จะผลักดันเจตนารมย์ของทุกท่านบรรลุผลสำเร็จ
ถึงแม้ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้แต่ภายใต้รัฐธรรมนูญพวกเรายังคงต้องทำงานด้วยกันจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ
ขอให้ท่านมีความมั่นใจว่าตนก็จะดำรงตนให้ภารกิจของทุกท่านบรรลุผลสำเร็จในทุกกรณีแม้ว่ารัฐบาลรักษาการจะมีกฎระเบียบข้อบังคับมากมาย แต่ตนถือว่าหากเจตนาดีที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองและมีสิ่งจำเป็นที่ต้องตัดสินใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้จะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นตนก็จะใช้ทุกหนทางและทุกวิถีทางที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้เพื่อความราบรื่น เชื่อว่าทุกคนได้สัมผัสและร่วมกันเห็นการตัดสินใจ ก็ถือว่าตนเป็นคนที่มีความรวดเร็วและใช้เจตนารมย์ความเชื่อถือที่มีต่อทุกท่าน หากทุกคนกล้าที่จะลงนามมา ตนก็กล้าที่จะให้ความร่วมมือตรงนั้นในการให้ความเห็นชอบเพราะเป็นความเข้าใจซึ่งกันและกันแม้จะมีสิ่งที่เราไม่คาดคิด หากเป็นรัฐบาลรักษาการก็เตรียมพร้อมตลอดเวลา
และเชื่อว่าเลขากฤษฎีกาคงต้องหาช่องทางต่างๆหากมีช่องทางใดใดที่ต้องดำเนินการหากรัฐบาลจะต้องให้ความเห็นชอบ หรือดำเนินการใดใดก็ตาม ให้ประเทศของเราได้เดินหน้าต่อไปได้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่ออธิปไตยและแผ่นดินของเรา ซึ่งต้องคิดเผื่อสิ่งเหล่านี้ไปด้วย เพราะเราคงไม่ใช้คำว่า หากเป็นรัฐบาลรักษาแล้วมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น ก็จะไม่ทำและรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามา เพราะการรอไปก่อนอาจจะเกิดผลเสียอย่างมากมายต่อประเทศ ตนจะไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น อย่างแน่นอน
Advertisement