
วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2568) พล.ต.ท. บุญจันทร์ นวลสาย ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ หมื่นศรีรองประธานคณะกรรมาธิการฯ นายเศก จุลเกษร เลขานุการและกรรมาธิการ นำคณะลงพื้นที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาคุก VIP และเอื้อประโยชน์ผู้ต้องขังจีนเทา
โดยมีนายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะรักษาการ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายไพฑูรย์ มงคลหัตถี ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งคณะเจ้าหน้าที่เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริง
พล.ต.ท.บุญจันทร์ กล่าวว่า ปฏิบัติการตรวจค้นจู่โจมเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เป็นผลสืบเนื่องจาก พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับข้อมูลทางลับมาล่วงหน้าเพียง 2 สัปดาห์ ว่ามีความไม่ชอบมาพากล จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จู่โจมตรวจค้นทันที เพื่อ "เก็บกวาดบ้าน" ให้สะอาด
"จากการตรวจสอบเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง พบว่ามีเพียง 'เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ' แห่งเดียวที่มีความผิดปกติ โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องการสร้าง 'ห้องลับใต้บันได' ที่เพิ่งผุดขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องจัดการเด็ดขาดตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการทำความสะอาดบ้านของตัวเอง" พล.ต.ท.บุญจันทร์ กล่าว
ประธานกมธ.กฎหมายฯ ย้ำชัดว่า อีก 142 เรือนจำทั่วประเทศ ยังคงปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัด ให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องขังทุกคน ขอประชาชนอย่าเหมารวม
นอกจากปัญหาสินบนและคุก VIP ทางคณะกรรมาธิการฯ ยังเกาะติดสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ โดยแสดงความเป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้ต้องขังในพื้นที่เสี่ยง
ด้าน นายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลาที่มีเรือนจำ 4 แห่ง ยืนยันว่า น้ำไม่ท่วมเรือนจำและผู้ต้องขังปลอดภัยดี ที่น่าชื่นชมคือ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งระดมกำลังผู้ต้องขังในพื้นที่ สนับสนุนภารกิจกู้ภัยและฟื้นฟู ทั้งการจัดทำอาหารกล่องแจกจ่าย และส่งทีมช่างฝีมือออกไปซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ชาวบ้านที่เดือดร้อน สะท้อนให้เห็นว่าแม้ตัวจะถูกขัง แต่ใจยังเป็นห่วงพี่น้องชาวหาดใหญ่และคนไทยด้วยกัน
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯมีเสนอแนะว่า "ปัญหามีไว้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้ท้อแท้" และจะติดตามการทำงานของราชทัณฑ์อย่างใกล้ชิด เพื่อกอบกู้ศรัทธาและความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้กลับคืนมาเป็นหน้าเป็นตาของประเทศอีกครั้ง.
Advertisement