
วันที่ 24 พ.ย.2568 จากกรณีชุดปฏิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพบผู้ต้องหากลุ่มทุนจีนสีเทา พร้อมนางแบบชาวจีน 2 ราย และสิ่งอำนายความสะดวกต่างๆ บริเวณห้องผู้คุมที่มีการแปลงสภาพห้อง ก่อนเก็บหลักฐานไปตรวจสอบ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นพล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม, กรมราชทัณฑ์, กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เข้าตรวจสอบภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
ล่าสุดพลตำรวจโทรุทธพล เปิดเผยความคืบหน้าว่า ข้อมูลจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือว่ามีความคืบหน้าและเริ่มมีพยานหลักฐานชัดเจนแล้ว โดยวันนี้ปลัดกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงนามคำสั่งให้
1.ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
และ 2.เลขานุการผู้บัญชาการเรือนจำฯ (เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน) ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"เรื่องนี้ว่ากันตามพยานหลักฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร ไม่ใช่ประเด็นการเมืองภายใน กระทรวงยุติธรรมของเราจึงให้ความสำคัญอย่างมากในการจัดระเบียบและเร่งรัดตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าจะมีความชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตด้วย" พลตำรวจโทรุทธพล กล่าว
ส่วนนายยุทธนา นาคเรืองศรี รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยศาสตร์และเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น ขณะนี้กำลังให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และมีเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่เดินทางเข้ามาตามคำสั่งและสอบปากคำพยานหลักฐาน ส่วนเจ้าหน้าที่ได้แบ่งหน้าที่กันภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทำการปิดห้องของ ผบ.เรือนจำฯ รวมถึงห้องทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำการสืบสวนสอบสวน ซึ่งกระบวนการทำงานของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตนยังไม่ทราบ เพราะมีการแยกห้องในการปฎิบัติหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตลอดทั้งวันผ่านมาพบว่าเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทยอยขนลังแฟ้มเอกสารจำนวนมากออกจากอาคารสำนักงานผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ บริเวณชั้น 1 และชั้น 2 รวมไปถึงการรวบรวมพยานวัตถุ
นอกจากนี้ ยังมีการกันพื้นที่โดยใช้เทปสีเหลือง เพื่อไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าบริเวณประตูสำนักงานผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อีกทั้งยังมีการเก็บรอยนิ้วมือบริเวณประตูและหน้าต่างที่ชั้น 1 และชั้น 2 ของสำนักงาน โดยมีเจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอสไอ กรมสรรพากร และตำรวจไซเบอร์ ร่วมด้วย
Advertisement