
"ปานเทพ" แนะ ไทยเฝ้าระวัง หลังกัมพูชาพัฒนาระบบแอนตี้โดรนดีขึ้นมาก ปูด มีโดรนเตรียมไว้โจมตีพลีชีพ หวั่นใช้งบลับ–ทุนสีเทาเป็นภัยคุกคาม จับตาเขมรกู้ IMF
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีมีโดรนจากฝั่งกัมพูชา บินเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย จะมีผลต่อความมั่นคงอย่างไรบ้าง ว่า โดรนเกี่ยวข้องกับเวลาและเงิน ซึ่งนับตั้งแต่หยุดยิงหลังจากที่มีการปะทะ กัมพูชามีพัฒนาการไปเยอะมาก ได้แก่
1.ระบบแอนตี้โดรนมีความแข็งแรงขึ้น ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ถ้าฝั่งไทย ไทยไม่ปรับ หรือหายุทธโธปกรณ์ที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เราจะบินเข้าไปในเขตกัมพูชาเพื่อสำรวจไม่ได้เลย
2.เท่าที่ทราบการข่าวตอนนี้ โดรนจากฝั่งกัมพูชามีเยอะมาก และเป็นโดรนชนิดการโจมตี พร้อมพลีชีพถล่ม หลังจากที่หาพิกัดไว้เตรียมพร้อมแล้ว แปลว่าระยะเวลาที่นานนี้ ทำให้กัมพูชามีการเตรียมตัวหลายอย่าง รวมถึงอาวุธหนักที่เขาเพิ่งถอยไปล่าสุด ชัดเจนว่าเป็นอาวุธใหม่ที่เขาจัดมา
นายปานเทพ กล่าวว่า เราจึงต้องระวังว่า กัมพูชากำลังใช้งบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นทางตรง ทางลับ หรือทุนสีเทา กำลังเป็นภัยคุกคามต่อประเทศไทย ยิ่งนานไปจะยิ่งอันตราย
เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชา จะขอกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งมีความกังวลว่าจะนำเงินมาซื้ออาวุธ นายปานเทพ กล่าวว่า เราต้องคิดว่ากัมพูชาจะกู้ไอเอ็มเอฟทำไม เพราะปกติไม่ใช่ว่าใครจะกู้ได้
นายปานเทพ กล่าวว่า หากกัมพูชาเกิดวิกฤติบางอย่าง เช่นขาดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ แต่เขาคงไม่กล้าขอเงินจากไอเอ็มเอฟ จากโครงการการขาดทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะถ้าทำเช่นนั้น ไอเอ็มเอฟ ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขจำนวนมาก เช่น การปฏิรูปเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้กัมพูชาไม่กล้ายื่นโครงการแบบนี้ แต่เลี่ยงไปใช้การกู้ผ่านโครงการคลองฟูนันเตโช หลังจากที่จีนระงับ เนื่องจากเวียดนามสร้างถนนปิดกั้น ทำให้คลองดังกล่าวไม่สามารถออกทางทะเลในการขนส่งได้ จึงทำให้ความเป็นไปได้น้อยลง ดังนั้น กัมพูชาอาจกู้โดยใช้โครงการนี้ และนำเงินไปใช้อย่างอื่นแทนก็ได้ เราจึงต้องจับตามอง ไว้ใจเขาไม่ได้
Advertisement