
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์ ความคืบหน้าบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยสถานการณ์ ตอนนี้พบว่าทางฝั่งกัมพูชา ยังคงมีการเสริมกำลังทางทหารและอาวุธในพื้นที่อย่างต่อเนื่องและขยับเข้ามาใกล้ประชิดแนวชายแดน
ส่วนกรณีที่มีภาพรถถังของฝั่งกัมพูชา เข้ามาอยู่บริเวณตามแนวชายแดน พล.ต.วินธัย ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงและยังไม่มีการถอนออกไปจากพื้นที่ เนื่องจากตามข้อตกลงเฟสแรกจะเป็นเรื่องการถอนอาวุธหนัก จากเครื่องยิงสนับสนุนระยะไกล จากการตรวจสอบพบว่าทางฝั่งกัมพูชา มีการถอนออกจากพื้นที่ แต่ไม่ได้ถอนไปไกลจากชายแดนมากนัก ส่วนเรื่องรถถัง ตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ในช่วงการถอนออกจากพื้นที่ ทำให้ยังคงมีภาพปรากฏอยู่
สำหรับพื้นที่บริเวณแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาค 2 พบว่าทหารกัมพูชา ยังคงมีความพยายามยั่วยุ ตั้งใจ ให้ทหารไทยเกิดการตอบโต้ ตั้งแต่ช่วงที่มีการหยุดยิง เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวชายแดน จะตอบโต้ตามสถานการณ์ เพื่อไม่ให้กัมพูชาเอามาโจมตีฝั่งไทยได้ ขณะที่บางเหตุการณ์มักจะพบคลิป การเผชิญหน้าระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย โดยในหลายๆคลิป จะพบว่าทางทหารกัมพูชาพยายามยั่วยุ ใช้คำพูดรุนแรง
ที่ผ่านมาหลังจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดรายที่ 7 ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น แม้จะเป็นจุดที่ทหารไทยลาดตระเวนเป็นประจำ ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่าทางฝั่งกัมพูชา ได้แอบลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ เพราะบางจุดมีการเข้าเคลียร์ทุ่นระเบิดแล้ว
ส่วนความคืบหน้ามติที่ประชุมสภากลาโหม ได้มีการประชุม ถึงการเตรียมความพร้อม ด้านการทหารตลอดเวลา ส่วนกรณีใช้กำลัง จะอยู่ในกฎการปะทะอยู่แล้ว เราจะปฏิบัติการตามกฎการใช้กำลัง ด้วยการ “เตือน ด้วยวาจาก่อน หากลุกล้ำมาอีก ก็จะยิงเตือน หากลุกมาอีก ก็จะยิงตรง” แต่ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของ แต่ละหน่วยที่เผชิญหน้า ยืนยันว่า ตอนนี้ทหารไทยยังคงตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่บริเวณตามแนวชายแดนเหมือนที่ผ่านมา แต่มีการถอนอาวุธยิงสนับสนุนหรืออาวุธหนักออกจากพื้นที่เท่านั้น
เมื่อถามถึงกรณีที่มี "เฟคนิวส์" (Fake News) หรือการสร้างสถานการณ์จากฝั่งกัมพูชา ซึ่งล่าสุดที่จ.ตราด กัมพูชาได้จุดประทัด โดยอ้างว่าได้ยินเสียงดังจากฝั่งไทย ทางกองทัพมีการรับมืออย่างไรบ้าง พล.ต.วินธัย เปิดเผยว่า จริงๆไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะที่ผ่านมาฝั่งกัมพูชา ใช้เฟคนิวส์และสร้างหลักฐานเท็จมา โดยตลอด หลังจากนี้ทางกองทัพ จะต้องตอบโต้ด้วยความรวดเร็ว ด้วยข้อเท็จจริง และนำพยานหลักฐานให้นานาชาติรับรู้ ว่าฝั่งกัมพูชาตั้งใจ บิดเบือนข้อเท็จจริง มีการเตรียมการเป็นขั้นเป็นตอน หลังจากนี้หากฝั่งไทยเก็บกู้ระเบิดหรือปักปันเขตแดน จะมีการนำคณะ AOT ลงพื้นที่ร่วมสังเกตการณ์ทุกครั้ง โดยจะให้ทาง AOT ได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่าพื้นที่ภูมะเขือและปราสาทตาเหมือนธม หากเกิดการปะทะรอบ 2 ทางกัมพูชา จะมุ่งเอากำลังมาที่ 2 จุดนี้เป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.วิทธัย เปิดเผยว่าในทางการทหาร ตอนนี้มีการเตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน โดยให้ความสำคัญในทุกทุกพื้นที่ไม่ต่าง
ส่วนกรณีของปราสาทตาควายและพื้นที่บริเวณช่องอานม้า บางจุด คือตอนนี้ทหารกัมพูชาเข้าไปตรึงกำลังยึดพื้นที่ไว้ ยอมรับว่าเป็นพื้นที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายให้ความสำคัญ คงต้องอยู่ที่จังหวะ โอกาส และสภาพแวดล้อมในตอนนั้น แต่ในทุกพื้นที่ทางทหารไทยต้องการที่จะเข้าควบคุม
สำหรับตอนนี้สถานการณ์ปัจจุบันอยากให้ประชาชนชาวไทย เชื่อมั่นในกองทัพไทย ในการทำหน้าที่ที่จะปกป้อง อธิปไตยของชาติ แต่ต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่าง ยืนยันว่ากองทัพไทย จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
Advertisement