
วันที่ 17 พ.ย.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม กล่าวถึงกระแสพรรคกล้าธรรมภายหลังลงพื้นที่ภาคใต้ ว่า เราคงไม่พูดว่า ดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่าตนเดินจากสนามเข้าเวทีที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระยะทาง 200 เมตรใช้ระยะเวลาชั่วโมงเต็มๆ พี่น้องประชาชนให้กำลังใจ และขอถ่ายรูปกับตน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนฐานราก อยากให้ตนแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน ไม่ใช่เป็นวลีไปวันๆ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เคยสัญญาจะตั้งใครเป็นรัฐมนตรีล่วงหน้าหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าถามเรื่องที่คนพูดแล้วเป็นไปไม่ได้ การจัดตั้งรัฐมนตรีต้องตรวจคุณสมบัติละเอียดยิบ ขั้นตอนของพรรคเราก็ละเอียดยิบ ไม่คิดว่าใครจะตั้งหรือคิดว่าจะเป็นแล้วได้เป็น
เมื่อถามว่า กรณีนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม จะมีผลต่อกระแสการเลือกตั้งของพรรคกล้าธรรมหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เกี่ยว พรรคเราทำงาน สิ่งสำคัญที่สุดคือการบังคับใช้กฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใครผิดก็ว่าไปตามผิด
“คนที่มีคุณสมบัติลงสส.ตามรัฐธรรมนูญกำหนดชัดเจน ถ้ามีคุณสมบัติต้องห้ามก็ลงไม่ได้ อย่าไปคิดมาก อย่าไปสร้างวลีให้เกิดประเด็นกับสังคม ตอนนี้บ้านเมืองเราเดือดร้อนหลายเรื่อง อยากให้มองปัญหาประเทศชาติก่อน บางทีเราไปฟังเรื่องนู้นเรื่องนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน”
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่หากฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นนักการเมืองอย่าไปกังวลเรื่องพวกนี้ ตนอยู่การเมืองมาตั้งแต่ปี 2562 ยืนอยู่โต้ตอบได้ทุกเรื่อง ทุกประเด็น แต่ตนไม่ได้ไปท้าทาย แต่ถ้าเราถูกตรวจสอบภายใต้รัฐธรรมนูญ เราต้องพร้อมที่จะรับสถานการณ์ ไม่ใช่คนบางคนโดนหน่อย ร้อง ไม่ใช่ เราเป็นนักการเมืองต้องทำใจ
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าพรรคกล้าธรรม จะถูกพุ่งเป้าโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นพิเศษ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปคิดอย่างนั้น เพราะตนได้มอบหมาย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ประธานยุทธศาสตร์พรรคกล้าธรรม ตั้งวอร์รูมและฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่าเรื่องทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น เพราะสังคมในเวลานี้ พรรคที่กำลังโตถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจากหลายภาคส่วน ซึ่ง 2-3 วันที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ภาคใต้ ตนกลับมีความรู้สึกว่าประชาชนฝากความหวัง ตนจึงหยุดไม่ได้ ต้องเดินหน้าต่อ ตนเน้นย้ำเสมอว่า “เกียรติของทหารคือตายในสนามรบ เป็นนักการเมืองถ้าจะต้องตาย ต้องตายบนเวทีการเมือง เป็นเกียรติของนักการเมือง ไม่ต้องพูดเพราะ พูดสวย ไม่ใช่สไตล์ของตน“
เมื่อถามถึง กรณีนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังอยู่กับพรรคกล้าธรรมหรือไม่หลังปรากฏภาพ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.พรรคเพื่อไทย บุตรสาว ร่วมวงกินข้าวกับพรรคภูมิใจไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อสักครู่ก็ได้เจอกัน ตนให้เกียรติซึ่งกันและกัน คนจะอยู่หรือจะไปก็แล้วแต่การตัดสินใจของเขา อย่าไปบังคับ และอย่าเอาปัจจัยอะไรไปล่อเขา ไม่ใช่สไตล์ของตน อยู่กับตนต้องทำงานและไม่มีวันหยุด ถ้าอยู่ได้ก็อยู่ด้วยกัน
ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงเป้าหมายการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าพรรคกล้าธรรมจะกวาดที่นั่ง สส. จนกลายเป็นพรรคขนาดใหญ่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ตอบสั้นๆว่า “เดี๋ยวคอยดู” ก่อนเดินขึ้นตึกบัญชาการไปทันที
Advertisement