Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"โรม" จี้ "อนุทิน" คิดรอบคอบ แก้ปัญหาชายแดน-สแกมเมอร์

"โรม" จี้ "อนุทิน" คิดรอบคอบ แก้ปัญหาชายแดน-สแกมเมอร์

13 พ.ย. 68
13:37 น.
แชร์

"โรม" จี้ "อนุทิน" คิดรอบคอบ แก้ปัญหาชายแดน-สแกมเมอร์ จับไต๋กัมพูชาดูพร้อมมากทุกชั่วโมง เหมือนเขมรรู้เป้าหมาย

(13 พ.ย. 2568) ที่อาคารรัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงท่าทีของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ไม่สนภาษีทรัมป์ และเดินหน้าเลือกความมั่นคงในประเทศ ว่า ต้องเข้าใจว่าสถานการณ์ที่เจอคืออะไร เมื่อวานนี้ ตนได้เขียนโพสต์ ยอมรับว่าสังคมไทยและพี่น้องสื่อมวลชนอาจจะยังไม่คุ้นเคยเรื่องนี้ แต่ตนอยากจะขอร้องว่าเรื่องนี้ เราต้องใช้สติและความคิดเยอะๆ เพราะเราต้องเข้าใจสถานการณ์ก่อนว่า เรากำลังเจอกับอะไร

โดยประการแรก ต้องคิดว่ามีเหตุกับระเบิดแบบนี้ ทางกัมพูชาวางแผนอะไร ที่จากเดิมเรื่องสแกมเมอร์ โลกล้อมกัมพูชา แต่เมื่อมีเรื่องกับระเบิด จากที่เรื่องสแกมเมอร์กำลังเป็นที่สนใจ และมีการทลายเครือข่ายของผลประโยชน์มหาศาล ซึ่งหากมีการทลายจริงทางกัมพูชาเสียหายแน่นอน แต่เมื่อเจอเรื่องกับระเบิดแล้ว ตอนนี้ประเด็นมันเปลี่ยน

ประการที่สอง เมื่อเห็นเหตุการณ์เหยียบกับระเบิด ตนยืนยันว่าขอแสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียทุกคน และตนไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นเลย ตนรู้สึกผิดหวังที่ก่อนหน้าเราไม่ได้ลงทุนกับการรับมือบริเวณชายแดนอย่างเพียงพอ รัฐบาลควรจะอนุมัติงบกลางที่มากกว่านี้ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว ถ้ากัมพูชาต้องการเบี่ยงประเด็นและเราก็งับในสิ่งที่ต้องการให้เบี่ยงประเด็น คำถามก็คือว่า ใครได้ประโยชน์ กัมพูชาได้ประโยชน์หรือไม่

ต่อมาการตกลงเจรจาที่ประเทศมาเลเซีย มี 2 เรื่อง ต้องแยกให้ชัด ซึ่งตนย้ำว่าเรื่องนี้ต้องถ่ายทอดอย่างละเอียดเพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเราใช้อารมณ์มากกว่าความคิด โดย 2 เรื่องในข้อตกลง ประกอบด้วยแรร์เอิร์ธและข้อตกลงสันติภาพ ที่ ไทย-กัมพูชา ต้องตกลงกัน ซึ่งแรร์เอิร์ธมีการวิพากย์วิจารย์กันไปเต็มที่ว่าไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การเจรจาข้อตกลงสันติภาพนั้น ต้องตั้งคำถามว่าไทยได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์มากกว่ากัน ส่วนสำหรับตน มันไม่ได้เพอร์เฟ็คเพราะความคืบหน้าเรื่องสแกมเมอร์ ควรจะเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ประเทศไทยต้องเอาจริงเอาจัง แต่อย่างน้อยก็ยังพอมีเรื่องนี้อยู่บ้าง วันนี้เมื่อรัฐบาลแช่แข็งข้อตกลงนี้ ในการปราบสแกมเมอร์ที่จะต้องเป็นข้อตกลงร่วมจึงยุติทันที โดยตนเชื่อว่าหากเป็นข้อตกลงนี้ ทางกัมพูชาเสียเปรียบเรา เพราะอยากจะยกเลิกอยู่แล้ว และหากเราแช่แข็งและยกเลิกทันที ไม่ได้คิดถึงแผน 2 แผน 3 หรือมีมาตรการที่จะมารองรับ "กัมพูชาได้หรือเปล่า ฮุนเซนได้หรือเปล่า"

ประการที่สาม เริ่มมีความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศ ที่จะสื่อสารกับทั่วโลก แต่การสื่อสารไปไม่เท่ากับว่าเราได้ผลรับที่เราต้องการ ไม่ได้หมายความว่าโลกจะเข้าใจเราทันที ซึ่งจากเดิมที่โลกกำลังกดดันกัมพูชาเรื่องสแกมเมอร์ ไทยกำลังมีเพื่อนไปรุมสะกำทางกัมพูชา กลายเป็นว่าพอมีเรื่องนี้เกิดขึ้น โลกจะหันมาล้อมประเทศไทยแทนหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ถ้าไม่ได้คิดรายละเอียดอย่างรอบคอบ จะกลายเป็นว่าไทยอาจจะไม่ได้ปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของประโยชน์ของประเทศอย่างแท้จริง แล้ววันนี้เรื่องสแกมเมอน์กัมพูชาก็ไม่อยากปราบ ฝ่ายไทยจัดการมาแล้วก็เจอตอ มีนักการเมืองบางคนเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลอนุทินไม่ได้อยากแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างแท้จริง กลายเป็นว่าหรือต้องการเอาเรื่องนี้มาเบี่ยงประเด็น มีคนได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายหรือไม่

โดย นายอนุทิน ในฐานะนายกฯ กำลังทำหน้าที่บนพื้นฐานของการรักษาประโยชน์ประเทศไทยจริงๆ หรือไม่ หรือเป็นผลประโยชน์ของตัวเอง หวังจะใช้โอกาสนี้เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยไม่ได้สนว่าประเทศไทยจะมีศัตรูเพิ่มเป็นใครบ้าง และไม่ได้สนใจว่า ปัญหาทุนสีเทาจะถูกแก้หรือไม่ และสิ่งทำเหล่านี้จะนำไปสู่การสร้างความสมหวังในกับสมเด็จฮุนเซนและกัมพูชา ต้องคิดให้ดี สิ่งที่เรากำลังเจอไม่ใช่แค่ปัญหาชายแดน แต่เป็น Hybrid Warware มันคือสงครามลูกผสม ที่มีข่าวสาร กำลังทางอาวุธ การใช้พวกอุปกรณ์ ทางไซเบอร์ มีนักรบไซเบอร์ที่ก่อนหน้านี้ก่อกรรมทำเข็ญในการหลอกลวงคนทั่วโลก และเขาพร้อมใช้เครื่องมือนี้เล่นงานเรา ถ้าเรายังไม่ไส้ศึก อยู่ในประเทศเป็นทุนสีเทา ข้าราชการขายวิญญาณกับพวกนี้ และถ้าเราไม่แก้เรื่องพวกนี้เลย สิ่งที่เราจะเห็นคือการเลือกตั้งคือเงินที่เทาจะไหลเข้ามาสู่พรรคการเมืองและใช้ในการซื้อเสียงอย่างมหาศาล

ดังนั้น ตนอยากจะฝากพี่น้องสื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนว่าเรื่องนี้ กำลังมีคนแสยะยิ้มกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ มีคนที่ได้ประโยชน์บนพื้นฐานความสูญเสียขาของพี่น้องทหารเรา และพื้นฐานของพี่น้องชายแดนจำนวนมาก ตนไม่รู้ว่าสถานการณ์จะบานปลายไปถึงไหน หากมีการสู้รบจริง เราจะต้องรบไปกี่วัน แล้วก่อนที่จะมีชาติบางชาติเข้ามาแทรกแซง ตนเองไม่รู้ แต่ที่ตนรู้ คือ วันนี้เขาอาจกำลังประสบความสำเร็จในการเบี่ยงเบนประเด็นไปแล้ว และเป็นสิ่งอันตรายอย่างมาก

เมื่อถามว่า สิ่งต่อไปที่รัฐบาลควรทำ หลังจากนี้จะประกาศท่าทีเป็นอย่างแรก นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มี 2 สิ่งที่รัฐบาล ควรจะดำเนินการ คือ เปิดปฏิบัติการเชิงรุกให้มากขึ้น ออกหมายจับคนที่ทำผิด หากออกหมายจับไปเรื่อยๆ อาจเจอสมเด็จฮุนเซน และเส้นทางทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ก็ได้ และถ้ามีการออกหมายจับ ยื่นไปหมายแดง (Interpol) นี่คือแผ่นดินไหว 10 ริกเตอร์ต่อกัมพูชาทันที

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ มองว่า ต้องตัดแขน-ตัดขาทุนสีเทาที่อยู่ในประเทศของไทย ไส้ศึกที่ทรยศต่อชาติและขายวิญญาณ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสีเทาที่กำลังยึดประเทศ เราต้องรีบจัดการ ถ้าเราไม่จัดการ ตนคิดว่าประเทศไทยจะไม่ปลอดภัย

โดยส่วนตัวไม่คัดค้านและเห็นด้วยว่าตามแนวชายแดน ควรมีการเตรียมความพร้อมสูงสุด แต่สามารถเสริมเทคโนโลยี กล้อง และการมอนิเตอร์เหล่านี้จะเป็นพยานหลักฐานที่ดีในการส่งต่อไปประเทศอื่นๆ

ท้ายสุด คือ การกดดันกัมพูชา หากเราใช้แผนและยุทธศาสตร์ดีๆ เราควรชวนมิตรประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพมากดดันกัมพูชา เอาประเทศทั่วโลกไปล้อมกัมพูชา นี่คือยุทธศาสตร์ของเรา ไม่ใช่ให้โลกมาล้อมไทยและมาตั้งคำถามกับไทย ภาระการพิสูจน์ เรื่องการวาง กับระเบิด ทุ่นระเบิด ไม่ได้อยู่ที่ไทยแต่อยู่ที่กัมพูชาที่ต้องเป็นคนพิสูจน์

อย่างไรก็ดี นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่ากัมพูชามีความพร้อมมาก ทุกชั่วโมงเลย เพราะเขารู้อยู่ว่าต้องการอะไร แต่อย่าให้กับดักลูกที่ 2 รัฐบาลเป็นคนเหยียบ มิฉะนั้นจะเสียหายจริงๆ

Advertisement

แชร์
"โรม" จี้ "อนุทิน" คิดรอบคอบ แก้ปัญหาชายแดน-สแกมเมอร์