
จากกรณีเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 68 กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาคมโลกประณามไทยต่อเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่หมู่บ้านเปรยจัน โดยอ้างว่าทหารไทยได้เปิดฉากยิงใส่ประชาชนกัมพูชาในหมู่บ้านดังกล่าว ตามข้อมูลเบื้องต้นมีพลเรือนได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากทหารไทยได้กระทำการยั่วยุหลายครั้งติดต่อกันหลายวัน โดยมีเจตนาที่จะสร้างการปะทะกันระหว่างสองฝ่าย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ไทยต้องรับผิดชอบต่อการละเมิด และกลับมาเคารพข้อตกลงหยุดยิง
ต่อกรณีดังกล่าว พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า แถลงการณ์ของกัมพูชาดังกล่าวเป็น วิธีการเดิม ๆ ของกัมพูชา ที่เริ่มจากการสร้างสถานการณ์บิดเบือน และออกมาให้ข่าวตามแผนการที่วางไว้
โดยข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพบว่า ทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ชายแดน บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ฝ่ายไทยจึงได้เข้าแนวกำบัง และได้ทำการยิงตอบโต้ไปยังจุดที่มีการยิงเข้ามา โดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็นตามหลักกฎการใช้กำลัง เพื่อระงับเหตุและปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมถึงความปลอดภัยของกำลังพลในพื้นที่
ทั้งนี้การยิงตอบโต้ของฝ่ายไทยกระทำด้วยความระมัดระวัง โดยทำการยิงไปในทิศทางที่อาวุธยิงฝั่งตรงข้ามจะทำต่อกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อไม่ให้กระทบต่อพื้นที่พลเรือนหรือประชาชนโดยเด็ดขาด ซึ่งการใช้อาวุธตอบโต้นั้นเป็นทางเลือกสุดท้ายในสถานการณ์ดังกล่าว และฝ่ายไทยได้ทำการหยุดตอบโต้ในทันทีที่ภาวะคุกคามจากฝั่งกัมพูชาสิ้นสุดลง
ดังนั้น ข้อกล่าวหาของกัมพูชาที่ระบุว่าไทยเปิดฉากการยิง ยั่วยุ และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ล้วนไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น และการที่กัมพูชาเปิดฉากยิงโดยอาศัยพื้นที่ชุมชนเป็นที่กำบัง ยังเข้าข่าย การใช้โล่มนุษย์ ผิดหลักมนุษยธรรม แสดงถึงความไม่ใส่ใจในชีวิตของประชาชนกัมพูชาแม้แต่น้อย
Advertisement