
วันที่ 8 พ.ย. 68 นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า ทุกครั้งที่มีมรสุมหรือคลื่นลมแรง กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการแจ้งเตือนประชาชน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเป็นผู้อำนวยการกองบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ มีหนังสือสั่งการ ได้สั่งการกำชับให้คณะทำงานดูแลพื้นที่จังหวัดและอำเภอ ติดตามสภาพอากาศปริมาณน้ำฝน รวมถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ ดินสไลด์ ทั้งในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ
ขณะนี้นอกจากพื้นที่ภาคกลางแล้วยังมีร่องมรสุมพาดผ่านพื้นที่ภาคใต้ จึงต้องเฝ้าระวังพื้นที่ท้ายเขื่อนที่มีปริมาณน้ำมาก รวมไปถึงพื้นที่เชิงเขา เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัย
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุอีกว่า ยังให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนภัยต่อประชาชน ทั้งจากหอกระจายข่าว วิทยุชุมชน สื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้เกิดการเคลื่อนตัว อย่างเร็วที่สุด หากมีมวลน้ำเข้ามาโดยฉับพลัน พร้อมกำชับให้ทั้ง อพปร. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเข้ามาดูแลประชาชน ทราบข้อมูลอย่างแท้จริง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ บรรเทาสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ โดยในพื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจริมแม่น้ำ และเส้นทางคมนาคมที่มักพบน้ำท่วมขัง ให้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขไว้ล่วงหน้า ทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การขุดลอกท่อ กำจัดสิ่งกีดขวางลำน้ำ จัดทำแนวกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องจักรกลที่อยู่ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและกองทัพ เพื่อดูแลพื้นที่ต่างๆ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จะต้องมีการปิดกั้นพื้นที่หากพบสถานการณ์ที่อาจเกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว
ด้านการเผชิญเหตุ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า จะมีทีมจัดบริการหน่วยงานต่างๆ ทั้งฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าดำเนินการให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ดูแลกลุ่มเปราะบาง ทั้งด้านสาธารณสุข และเคลื่อนย้ายทรัพย์สินไปยังที่ปลอดภัย เพื่อลดผลกระทบของประชาชนให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด และในส่วนที่ประชาชนไม่ยอมย้ายออกจากพื้นที่ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหาร และยารักษาโรคให้ดีที่สุด หรือหากต้องการความช่วยเหลือ ขอให้แจ้งมายังศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย เพราะคือหน่วยงานที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ที่ประชาชนให้ความเชื่อมั่น
และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายกระทรวงมหาดไทยจะเร่งสำรวจความเสียหาย ที่เกิดขึ้นให้ครบถ้วนทุกด้าน ด้านชีวิต ที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำการเกษตร พื้นที่สาธารณประโยชน์ และสาธารณูปโภค เพื่อช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับ ให้เร่งเยียวยาและช่วยเหลือประชาชน อย่างเร็วและดีที่สุด เนื่องจากประชาชนได้รับความลำบาก และต้องทนกับภาวะน้ำท่วมขัง มาเป็นระยะเวลายาวนาน ตามมติคณะรัฐมนตรี ให้เบิกจ่ายเงินงบกลาง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชน ครัวเรือนละ 9,000 บาท รวมถึงเจ้าหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยจะต้องปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างไม่มีวันหยุด เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ยังชี้แจงถึงพื้นที่อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีเคยลงพื้นที่มาแล้วครั้งหนึ่ง และสั่งการว่าอนาคตจะต้องไม่เกิดสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก และสั่งการให้มีการศึกษาแก้ไขปัญหาในระยะยาว แต่ต้องยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก แต่จะต้องดูว่าจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมอีกในระยะยาว ก่อนย้ำถึงการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นที่จะต้องเร่งสำรวจความเสียหาย ตามสภาพความเป็นจริงใหม่อีกครั้ง แต่ในระยะเร่งด่วนจะเร่งดำเนินการให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด
Advertisement